สุภาษิตไทย เกี่ยวกับ สุภาษิต (หน้าที่ 2)

  1. นํ้าขึ้นให้รีบตัก
    หมายถึง มีโอกาสดีควรรีบทำ
  2. บัวไม่ช้ำ น้ำไม่ขุ่น
    หมายถึง รู้จักผ่อนปรนเข้าหากัน มิให้กระทบกระเทือนใจกัน
  3. บัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่น
    หมายถึง รู้จักผ่อนปรนเข้าหากัน มิให้กระทบกระเทือนใจกัน
  4. บุญมา ปัญญาช่วย ที่ป่วยก็หาย ที่หน่ายก็รัก
    หมายถึง เวลาที่โชคดี อะไร ๆ ก็มีผลปรากฎที่ดีไปทุกอย่าง
  5. บุญมาวาสนาส่ง
    หมายถึง เมื่อมีบุญ อำนาจวาสนาก็มาเอง, บุญมาวาสนาช่วย ก็ว่า.
  6. บ้านเมืองมีขื่อมีแป
    หมายถึง บ้านเมืองหรือประเทศย่อมมีกฎหมายคุ้มครอง
  7. ปลูกเรือนตามใจผู้อยู่ปลูกอู่ตามใจผู้นอน
    หมายถึง การกระทำการใดให้ใครต้องถามความต้องการหรือความสมัครใจของผู้ที่จะได้รับผลประโยชน์หรือผลกระทบโดยตรง
  8. ปลูกเรือนต้องตามใจผู้อยู่ ผูกอู่ต้องตามใจผู้นอน
    หมายถึง จะทำอะไรก็ต้องตามใจผู้ที่จะได้รับผล
  9. ปลูกเรือนผิดคิดจนเรือนทลาย
    หมายถึง จะทำสิ่งใดควรคิดให้รอบคอบ เพราะถ้าผิดพลาดไป จะแก้ไขยาก
  10. ปล่อยนกปล่อยปลา
    หมายถึง ทำให้หลุดออกมาด้วยคาถาอาคม เช่น สะเดาะโซ่ตรวน สะเดาะกุญแจ; ทำให้หมดสิ้นไปหรือเบาบางลง เช่น ทำบุญสะเดาะเคราะห์ ปล่อยนกปล่อยปลาสะเดาะเคราะห์.
  11. ปล่อยเสือเข้าป่า ปล่อยปลาลงน้ำ
    หมายถึง ปล่อยศัตรูสำคัญหรือโจรผู้ร้าย ที่ตกอยู่ในอำนาจให้พ้นไปนั้น จะทำให้เขากลับมีกำลังและอาจกลับเข้ามาก่อความเดือดร้อนได้อีก
  12. ปากเป็นเอก เลขเป็นโท หนังสือเป็นตรี ชั่วดีเป็นตรา
    หมายถึง คนพูดเก่งพูดเป็นมีแต้มต่อกว่าความรู้เพียงอย่างเดียว
  13. ปากเป็นเอกเลขเป็นโท
    หมายถึง การพูดจาสำคัญกว่าวิชาหนังสือ
  14. ปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม
    หมายถึง ยังเป็นเหมือนเด็กไม่มีความคิด
  15. ปิดทองหลังพระ
    หมายถึง ทำความดีแต่ไม่ได้รับการยกย่องเพราะไม่มีใครเห็นคุณค่า
  16. ปิดทองหลังพระ
    หมายถึง ทำดีโดยไม่ต้องเป่าประกาศ
  17. ผิดเป็นครู
    หมายถึง ผิดแล้วจำไว้จะได้ไม่ทำอีก
  18. ผู้ดีเดินตรอกขี้ครอกเดินถนน
    หมายถึง คนดีคอยปิดบังไม่แสดงตัวแต่คนชั่วกลับแสดงออกอย่างเปิดเผย
  19. ผ่อนสั้นผ่อนยาว
    หมายถึง ประนีประนอมกัน, อะลุ่มอล่วยกัน
  20. ผ่อนหนักผ่อนเบา
    หมายถึง ประนีประนอม, อะลุ่มอล่วย, อะลุ้มอล่วย
  21. ผ่อนหนักเป็นเบา
    หมายถึง ลดความรุนแรงลง, ลดหย่อนลง.
  22. ฝนทั่งให้เป็นเข็ม
    หมายถึง เพียรพยายามสุดความสามารถจนกว่าจะสำเร็จผล
  23. ฝนทั่งให้เป็นเข็ม
    หมายถึง เพียรพยายามสุดความสามารถจนสำเร็จ
  24. พอลืมตาอ้าปาก
    หมายถึง พอมีพอกิน
  25. พูดดีเป็นเงินเป็นทอง
    หมายถึง พูดดีย่อมเกิดประโยชน์กับตน
  26. พูดไปสองไพเบี้ยนิ่งเสียตำลึงทอง
    หมายถึง คำพูดบางครั้งหากพูดออกไปอาจจะก่อให้เกิดผลเสียต่อตนเองหรือคนรอบข้าง หากอยู่เฉย ๆ ไม่พูดอะไรออกไปยังจะก่อเกิดผลลัพธ์ที่ดีกว่า
  27. พูดไปสองไพเบี้ยนิ่งเสียตำลึงทอง
    หมายถึง พูดไปไม่มีประโยชน์ นิ่งเสียดีกว่า
  28. ฟังความข้างเดียว
    หมายถึง เชื่อถือแต่ฝ่ายเดียวโดยไม่ฟังความอีกฝ่ายหนึ่ง
  29. ฟังหูไว้หู
    หมายถึง การรับฟังเรื่องราวต่าง ๆ แต่ไม่เชื่อทั้งหมดในทันที แต่รับฟังไว้ก่อนแล้วจึงพิจารณาในภายหลังว่าสิ่งนั้นเชื่อถือได้หรือไม่
  30. ฟังหูไว้หู
    หมายถึง รับฟังไว้แต่ไม่เชื่อทั้งหมด
  31. มีเงินมีทองเจรจาได้ มีไม้มีไร่ปลูกเรือนงาม
    หมายถึง ถ้ามีเงินมีทองแล้วจะพูดอะไรก็มักจะสำเร็จ ถ้ามีไม้มีที่แล้ว ก็ย่อมปลูกเรือนได้สวยงาม
  32. มีเงินเขานับว่าเป็นน้อง มีทองเขานับว่าเป็นพี่
    หมายถึง เมื่อมั่งมีเงินมีทองแล้ว ใคร ๆ ก็ประจบอยากเข้ามาเป็นญาติพี่น้องด้วย
  33. ยากเจ็ดทีดีเจ็ดหน
    หมายถึง คนที่มีทั้งโชคดีและร้ายสลับกันไปมา
  34. รกคนดีกว่ารกหญ้า
    หมายถึง เลี้ยงคนไว้ยังใช้งานได้
  35. รกคนดีกว่ารกหญ้า
    หมายถึง หากมีคนอยู่จำนวนมากอาจจะใช้ประโยชน์ได้บ้าง ซึ่งดีกว่ามีหญ้า(วัชพืช)ขึ้นเต็ม ไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้และยังกลายเป็นภาระอีกด้วย
  36. รวมกันเราอยู่แยกกันเราตาย
    หมายถึง ร่วมกันทำงานย่อมประสบความสำเร็จได้ แต่ทางตรงกันข้าม ถ้าแยกกันทำไม่รวมใจกัน งานอาจจะไม่ประสบความสำเร็จเอาได้
  37. รวมกันเราอยู่แยกหมู่เราตาย
    หมายถึง ร่วมกันทำงานย่อมประสบความสำเร็จได้ แต่ทางตรงกันข้าม ถ้าแยกกันทำไม่รวมใจกัน งานอาจจะไม่ประสบความสำเร็จเอาได้
  38. รักดีหามจั่วรักชั่วหามเสา
    หมายถึง ใฝ่ดีจะมีความสุขความเจริญ ใฝ่ชั่วจะได้รับความลำบาก
  39. รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ
    หมายถึง รักจะคบกันนาน ๆ ให้ตัดความคิดอาฆาตพยาบาทออกไป รักจะอยู่สั้น ๆ ให้คิดอาฆาต
  40. รักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี
    หมายถึง วัวถ้าไม่ผูกไว้ ก็อาจหายได้ ถ้าลูกดื้อ พ่อแม่ก็ต้องดุต้องตีบ้าง
  41. รักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี
    หมายถึง หากลูกทำผิดก็ควรอบรมสั่งสอน ดุด่าว่ากล่าว และลงโทษเมื่อกระทำความผิดตามสมควร
  42. รักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี
    หมายถึง เวลาลูกทำผิดก็ควรอบรมสั่งสอนลูก และมีการลงโทษบางตามสมควร ซึ่งทั้งหมดที่ทำไปก็เพราะรักลูกอยากให้ลูกเป็นเด็กดี
  43. รู้มากยากนาน
    หมายถึง รู้มากเกินไปจนทำให้ยุ่งยากใจ, มักพูดเข้าคู่กับ รู้น้อยพลอยรำคาญ เป็น รู้มากยากนาน รู้น้อยพลอยรำคาญ
  44. รู้มากยากนาน
    หมายถึง รู้มากเกินไปทำอะไรก็คิดแล้วคิดอีกจนทำให้ยุ่งยากใจ หรือตัดสินใจช้า
  45. รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี
    หมายถึง คือการสามารถเอาตัวรอดในจังหวะ สถาการณ์ที่ลำบากหรือเข้าขั้นวิกฤติได้ หรือหลบหลีกจากอันตรายมาได้อย่างปลอดภัยไม่ได้รับผลอันใดจากสิ่งต่างๆ ได้โดยไม่เป็นอะไรหรือได้รับผลกระทบมากมาย
  46. รู้สิ่งใดไม่สู้รู้วิชา รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี
    หมายถึง ความรู้จะสามารถช่วยให้เราสามารถรักษาตัวเองให้รอดได้และเป็นสิ่งมีค่าที่จะติดตัวเราไปทุกที่มากกว่าทรัพย์สินสิ่งของใดๆ
  47. รู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นหาง
    หมายถึง รู้จักเอาตัวรอดหรือปรับตัวให้เข้ากับเหตุการณ์
  48. รู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นหาง
    หมายถึง การรู้จักหลบหลีกเอาตัวรอดจากปัญหา สถานการณ์ที่ลำบากหรืออันตรายได้
  49. รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม
    หมายถึง เรียนรู้ไว้ไม่หนักเรี่ยวหนักแรงหรือเสียหายอะไร
  50. รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม
    หมายถึง การศึกษาหาความรู้ไว้ ยิ่งมากยิ่งดี เพราะการมีความรู้มาก ไม่เหมือนการแบกข้าวแบกของ ซึ่งจะรู้สึกว่าหนักบ่า
  51. ลมไม่พัด ใบไม้ไม่ไหว
    หมายถึง ไม่มีอะไรเป็นเค้ามูลมาก่อนแล้ว ก็คงไม่มีเรื่องมีราวเกิดขึ้นเป็นแน่
  52. ลืมตาอ้าปาก
    หมายถึง มีฐานะดีขึ้นกว่าเดิมจนพอทัดเทียมกับผู้อื่น
  53. ลูกรักอยู่หลังลูกชังอยู่หน้า
    หมายถึง รักลูกไม่เท่ากัน
  54. ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น
    หมายถึง ลูกย่อมไม่ต่างกับพ่อแม่มากนัก
  55. วันพระไม่ได้มีหนเดียว
    หมายถึง วันหน้ายังมีโอกาสอีก
  56. วัวใครก็เข้าคอกคนนั้น
    หมายถึง ส่วนของใครก็เป็นของคนนั้น ไม่ก้าวก่ายหรือก้ำเกินในผลประโยชน์ของกันและกัน
  57. ศิษย์มีครู
    หมายถึง คนเก่งที่มีครูเก่ง
  58. ศิษย์มีครู
    หมายถึง คนเก่งที่มีครู
  59. สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ
    หมายถึง ความสุขที่เกิดจาการทำดี ทำชั่ว อยู่ที่ใจทั้งนั้น
  60. สองสลึงเฟื้อง
    หมายถึง บ้า ๆ บอ ๆ สติไม่สมบูรณ์, มีจิตใจใกล้ไปทางบ้า ๆ บอ ๆ
  61. สองหัวดีกว่าหัวเดียว
    หมายถึง ร่วมกันคิด ร่วมกันปรึกษา
  62. สอนเด็ก สอนง่าย สอนผู้ใหญ่ สอนยาก
    หมายถึง จะอบรมสั่งสอนอะไรก็ทำเสียตั้งแต่เด็ก เพราะอบรมสั่งสอนง่าย จะสอนให้เป็นอะไรก็ได้ ส่วนคนแก่นั้นสอนยาก
  63. สำเนียงบอกภาษากิริยาส่อสกุล
    หมายถึง การแสดงออกทางการพูดหรือกิริยามารยาท ที่จะชี้ให้เห็นถึงพื้นฐานการในการเลี้ยงดู อบรมสั่งสอน
  64. สิบคนเกื้อไม่เท่าเนื้อไข
    หมายถึง หลายสิบคนช่วยเหลือมีบุญคุณ ก็ไม่เท่าญาติพี่น้อง เปรียบเหมือนเลือดข้นกว่าน้ำ
  65. สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น
    หมายถึง การบอกเล่าบอกต่อผ่านคนมามากๆ ก็ไม่เท่ากับเราได้เห็นด้วยตาตนเอง อย่าเพิ่งไปเชื่อสิ่งที่คนบอกต่อ ๆ กันมา จะจริงหรือไม่ต้องไปสัมผัสไปเห็นด้วยตัวเอง
  66. สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น
    หมายถึง การได้ยินได้ฟังจากผู้อื่นหลาย ๆ คน ก็ไม่เท่ากับพบเห็นด้วยตนเอง
  67. สิบเบี้ยใกล้มือ
    หมายถึง ของหรือประโยชน์ที่ควรได้ก็เอาไว้ก่อน
  68. สี่ตีนยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง
    หมายถึง คนเราแม้จะมีความรู้สูงอย่างนักปราชญ์ ก็อาจผิดพลาดได้เหมือนกัน ทุกคนจึงไม่ควรประมาท
  69. สี่ตีนยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง
    หมายถึง คนเราแม้จะมีความรู้สูงอย่างนักปราชญ์ ก็อาจผิดพลาดได้เหมือนกัน ทุกคนจึงไม่ควรประมาท แม้สัตว์สี่เท้าเช่น วัวควายซึ่งมีสี่เท้าก็ยังอาจก้าวพลาดถึงล้มลงได้
  70. สี่เท้ายังรู้พลาดนักปราชญ์ยังรู้พลั้ง
    หมายถึง คนเราแม้จะมีความรู้สูงอย่างนักปราชญ์ ก็อาจผิดพลาดได้เหมือนกัน ทุกคนจึงไม่ควรประมาท แม้สัตว์สี่เท้าเช่น วัวควายซึ่งมีสี่เท้าก็ยังอาจก้าวพลาดถึงล้มลงได้
  71. สุกเอาเผากิน
    หมายถึง อาการที่ทำอย่างเร่งรีบไม่ใส่ใจ, อาการที่ทำลวก ๆ พอให้เสร็จ
  72. สูงนักมักโค่น
    หมายถึง โดดเด่นเกินไป มักมีภัยแก่ตนเอง
  73. หญิงสามผัว ชายสามโบสถ์
    หมายถึง แสดงว่ามีจิตใจรวนเร คบเป็นเพื่อนตายไม่ได้ เพราะเมื่อถึงคราวคับขัน อาจปลีกตัวหนีเอาตัวรอดไปตามลำพังได้
  74. หญิงสามผัว ชายสามโบสถ์ อย่าได้คบ
    หมายถึง แสดงว่ามีจิตใจรวนเร คบเป็นเพื่อนตายไม่ได้ เพราะเมื่อถึงคราวคับขัน อาจปลีกตัวหนีเอาตัวรอดไปตามลำพังได้
  75. หนักเอาเบาสู้
    หมายถึง ขยันขันแข็งไม่เกี่ยงงาน
  76. หนามยอกเอาหนามบ่ง
    หมายถึง ตอบโต้ หรือแก้ด้วยวิธีการทำนองเดียวกัน
  77. หนามยอกเอาหนามบ่ง
    หมายถึง ตอบโต้หรือแก้ด้วยวิธีการทำนองเดียวกัน
  78. หนามแหลมไม่มีคนเสี้ยม
    หมายถึง คนที่มีพรสวรรค์ สติปัญญาดี มีความสามารถสูง อาจจะเชี่ยวชาญด้านใดด้านหนึ่งโดยไม่มีผู้สอนเลยก็เป็นได้ หรือหมายถึงคนที่มาจากตระกูลที่ดี ตัวบุคคลนั้นก็จะมีแนวโน้มที่ดีไปด้วย
  79. หน้าต่างมีหู ประตูมีช่อง
    หมายถึง ความลับรักษาได้ยาก
  80. หมูเขาจะหาม อย่าเอาคานเข้าไปสอด
    หมายถึง อย่าเข้าไปขัดขวางผลประโยชน์ กิจกรรม หรือการกระทำของผู้อืน ซึ่งเขากำลังจะสำเร็จอยู่แล้ว
  81. หยิกเล็บเจ็บเนื้อ
    หมายถึง ทำผู้ใกล้ชิดก็ย่อมส่งผลกระทบถึงตัวผู้ทำ หรือพรรคพวกด้วย
  82. หย่อนนักมักยุ่ง
    หมายถึง หากไม่เคร่งครัด ท้ายสุดก็มักจะเกิดปัญหาตามหลัง
  83. หว่านพืชหวังผล
    หมายถึง ให้ผลประโยชน์แก่ผู้อื่นเพื่อหวังผลตอบแทน
  84. อดเปรี้ยวไว้กินหวาน
    หมายถึง ให้มีความอดทน อดใจรอผลข้างหน้าที่จะดีกว่า
  85. อดเปรี้ยวไว้กินหวาน
    หมายถึง อดใจไว้ตอนนี้เพื่อสิ่งที่ดีกว่าในวันข้างหน้า
  86. อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ปั้นวัวปั้นควายให้ลูกท่านเล่น
    หมายถึง เมื่ออยู่บ้านใคร อย่าอยู่เปล่า ควรทำการทำงานช่วยเหลือเขาเท่าที่จะทำได้
  87. อยู่สูงให้นอนคว่ำ อยู่ต่ำให้นอนหงาย
    หมายถึง คนที่เป็นผู้นำหรือผู้ปกครองอย่าหลงลืมตน ควรก้มมองดูลูกน้องหรือคนที่ต่ำต้อยกว่าว่าเขาเป็นอย่างไร เอาใจใส่ดูแล ฟังเสียงเขาบ้าง ส่วนคนที่เป็นลูกน้องก็สมควรทำหน้าที่ให้เรียบร้อยไม่ให้มีข้อบกพร่อง ดูแบบอย่างจากเจ้านายเพื่อนำมาพัฒนาตนเอง
  88. อย่าข่มเขาโคขืนให้กินหญ้า
    หมายถึง อย่าบังคับขืนใจผู้อื่นให้ทำตามใจตน
  89. อย่าคบคนจร นอนหมอนหมิ่น
    หมายถึง อย่าคบคนจร ที่เราไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าหรือไม่รู้จักประวัติเสียก่อน
  90. อย่าชักน้ำเข้าลึก อย่าชักศึกเข้าบ้าน
    หมายถึง อย่าทำอะไรที่เป็นเหตุให้อันตรายมาถึงตัว
  91. อย่าชิงสุกก่อนห่าม
    หมายถึง การกระทำอะไรต้องให้เป็นไปตามจังหวะขั้นตอนของมัน ถ้าทำผิดลำดับอาจเสียหาย
  92. อย่าตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
    หมายถึง อย่าทำอะไรที่ต้องเสียทรัพย์โดยไม่ได้ประโยชน์คุ้มกับเงินทองที่ต้องเสียไป
  93. อย่าติเรือทั้งโกลน
    หมายถึง อย่าเพิ่งติสิ่งที่ยังทำไม่เสร็จหรือยังไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร
  94. อย่าถือคนบ้าอย่าว่าคนเมา
    หมายถึง อย่าหาความจากคนที่ไม่มีสติสมบูรณ์ เพราะไร้ซึ่งประโยชน์ในการเจรจา
  95. อย่าฝากเนื้อไว้กับเสือ
    หมายถึง อย่าฝากสิ่งใดสิ่งหนึ่งไว้กับผู้ที่ชอบสิ่งนั้นเพราะตนจะต้องสูญเสียสิ่งนั้นไป
  96. อย่าฟื้นฝอยหาตะเข็บ
    หมายถึง อย่ารื้อเอาเรื่องเก่า ๆ ที่ล่วงเลยไปแล้วขึ้นมาพูดให้สะเทือนใจกัน
  97. อย่าสอนหนังสือสังฆราช
    หมายถึง อย่าไปสอนผู้รู้ เพราะเขารู้อยู่แล้ว
  98. อย่าหักด้ามพร้าด้วยเข่า
    หมายถึง อย่าใช้อำนาจบังคับอย่างหักโหมรุนแรง เพื่อให้ผู้อื่นทำตามความประสงค์ของตน เพราะนอกจากจะไม่สำเร็จแล้ว ตัวเองก็อาจเดือดร้อน
  99. อย่าเลี้ยงลูกเสือลูกจระเข้
    หมายถึง อย่าเอาลูกโจรหรือลูกคนชั่วคนเลวมาเลี้ยง เพราะอาจสร้างความลำบากเดือดร้อนให้แก่ผู้เลี้ยงก็ได้
  100. อย่าเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ
    หมายถึง อย่าลดตัวลงไปสู้กับคนชั่วต่ำ มีแต่จะเสียศักดิ์ศรี เพราะไม่คู่ควรกัน

 แสดงความคิดเห็น