สุภาษิตไทย ตัวอย่าง คำสุภาษิต ยอดนิยม คัดสรรมาให้ค้นหาคำสุภาษิตที่ตรงใจคุณได้ที่นี่! มาทำการเรียนรู้กัน จะมีสำนวนไหนที่เรารู้จักไหมนะ ไปดูกันเลย

คำสุภาษิต คือ คำในภาษาไทยที่เป็นการสร้างคำให้มีความหมายเชิงเปรียบเทียบอุปมาอุปมัย และเป็นเชิงสั่งสอนหรือให้ข้อคิด หรือตักเตือนไปในทางบวก โดยเน้นการให้ความหมายในแง่ดีเป็นหลัก


คำสุภาษิตหมวด ก - ข

  1. กรวดน้ำคว่ำขัน
    หมายถึง การตัดขาดไม่ขอเกี่ยวข้องด้วย เลิกไม่คบหาสมาคมกันต่อไป
  2. กลัวให้ถูกท่า กล้าให้ถูกที่ ดีให้ถูกทาง
    หมายถึง ทำอะไรก็ต้องให้ถูกกาลเทศะ
  3. กินข้าวร้อนนอนตื่นสาย
    หมายถึง อยู่อย่างสะดวกสบายไม่ลำบาก อยู่ไปเฉย ๆ นอนตื่นสายไม่ทำอะไรก็มีอยู่มีกินมีใช้
  4. เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน
    หมายถึง ถึงจะทำงานเล็กใหญ่ หรือค้าขายอะไรก็ตาม ก็พยายามค่อย ๆ ทำให้ดีขึ้นแม้เล็กน้อย ๆ เมื่อรวมกันและใช้เวลาก็จะทำให้การงานนั้นเห็นผลเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาได้
  5. เก็บเล็กผสมน้อย
    หมายถึง เก็บไว้ทีละเล็กละน้อย
  6. เก็บหอมรอมริบ
    หมายถึง เก็บรวบรวมไว้ทีละเล็กละน้อย
  7. ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง
    หมายถึง ความสวยงามเกิดขึ้นได้จากการปรุงแต่ง
  8. เข้าตามตรอก ออกตามประตู
    หมายถึง ทำอะไรให้ถูกต้องตามขนบธรรมเนียมประเพณี
  9. เข้าเถื่อนอย่าลืมพร้า ได้หน้าอย่าลืมหลัง
    หมายถึง อย่าประมาทต้องเตรียมให้พร้อม และให้มีสติกำหนดจดจำให้ดี
  10. เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม
    หมายถึง ประพฤติให้ถูกต้องตามกาลเทศะ เมื่อไปอยู่ในพวกเขาแล้ว ก็ต้องประพฤติคล้อยตามเขา
  11. เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม
    หมายถึง ประพฤติตัวเหมาะสมกับกาลเทศะ, ปรับตัวให้เข้ากับสถานที่ คน และสิ่งแวดล้อมที่ตัวเองอาศัยอยู่

คำสุภาษิตหมวด ค - ต

  1. คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย สามคนกลับมาได้
    หมายถึง ทำงานเป็นทีมจะให้สถานการณ์ที่ดีกว่า
  2. คนล้มอย่าข้าม
    หมายถึง คนที่เคยมีอำนาจวาสนา แล้วหมดอำนาจ อย่าไปซ้ำเติมเขา เพราะเขาอาจกลับมามีอำนาจอีกได้
  3. คนสามขามีปัญญาหาไว้ทัก ที่ไหนหลักแหลมคำจงจำเอา
    หมายถึง ผู้เฒ่าผู้แก่หรือผู้สูงอายุนับว่าเป็นผู้ผ่านโลกมาก่อน ย่อมมีประสบการณ์มาก จะทำสิ่งใดจึงควรขอคำแนะนำ
  4. คบคนดีมีศรีแก่ตัว คบคนชั่วอัปราชัย
    หมายถึง การมีเพื่อนที่ดีหรือการคบคนดี ย่อมเป็นประโยชน์แก่ตัวเราเอง แต่ถ้าเรามีเพื่อนไม่ดีเรียกว่า คบคนชั่ว เพื่อนก็จะนำแต่ความชั่ว ความอัปราชัย ความพ่ายแพ้มาให้เรา
  5. คบคนพาลพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตบัณฑิตพาไปหาผล
    หมายถึง คบใครก็จะเป็นคนอย่างนั้น
  6. คบคนให้ดูหน้าซื้อผ้าให้ดูเนื้อ
    หมายถึง ก่อนคบค้าสมาคมกับใคร ดูที่มาที่ไปให้ดี ๆ
  7. ความกตัญญูกตเวทีเป็นเครื่องหมายของคนดี
    หมายถึง มีความสำนึกในความดีของสิ่งหรือบุคคลที่มีพระคุณต่อเรา
  8. ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด
    หมายถึง มีความรู้ แต่ไม่ใช้ความรู้ก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร
  9. คับที่อยู่ได้คับใจอยู่ยาก
    หมายถึง ที่อยู่อาศัย แม้จะคับแคบเพียงใด ถ้ารู้จักทำให้ดี ก็น่าอยู่ แต่ถ้าหากมีความคับอกคับใจแล้ว แม้ที่จะกว้างขวางใหญ่โต ก็มิได้ทำให้สบายอกสบายใจเลย มีแต่จะรู้สึกอึดอัดใจแต่ถ่ายเดียว
  10. ฆ้องดีถ้าไม่ตีก็ไม่ดัง
    หมายถึง ผู้ที่มีคุณความดีในตัวนั้นถ้าไม่มีใครยกย่องชมเชยก็จะไม่มีใครเห็นความดีนั้น
  11. ฆ่าควายก็ต้องไม่เสียดายพริก
    หมายถึง ถ้าคิดจะทำงานใหญ่ทั้งที ก็ต้องไม่กลัวหมดเปลือง
  12. ฆ่าช้างจะเอางา คนเจรจาจะเอาถ้อยคำ
    หมายถึง ที่เขาฆ่าช้างก็เพราะเขาหวังจะเอางาซึ่งมีราคาแพง เมื่อคนเราเจรจากัน ถ้อยคำหรือคำพูดถือเป็นเรื่องสำคัญมาก ควรจะเป็นคำพูดที่มีความจริงใจ เชื่อถือได้
  13. เงยหน้าอ้าปาก
    หมายถึง การมีฐานะที่ดีขึ้นกว่าเดิม ดูแลตัวเองได้ไม่เดือดร้อน มีฐานะที่พอทัดเทียมกับเพื่อนได้
  14. จำศีลเอาหน้า ภาวนาโกหก
    หมายถึง แสร้งทำเป็นว่าถือศีลเคร่งครัด ชอบเจริญภาวนาเข้ากรรมฐาน ที่ลวงให้คนอื่นเข้าใจว่าตนเป็นมีศีลมีธรรม เขาจะได้เชื่อถือไว้วางใจ
  15. ใจเขาใจเรา
    หมายถึง การที่มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น หากคิดที่จะทำอะไรสักอย่างกับผู้อื่น ให้นึกถึงความรู้สึกของเขา ถ้าเราเป็นเขาจะรู้สึกอย่างไร
  16. ชั่วเจ็ดทีดีเจ็ดหน
    หมายถึง ชีวิตคนเราเอาแน่นอนอะไรไม่ได้ เดี๋ยวรุ่งเรือง เดี๋ยวตกอับ ดังนั้นเมื่อถึงคราวตกอับ ก็อย่าเพิ่งท้อถอย หรือหมดอาลัยในชีวิต และเมื่อถึงคราวรุ่งเรือง มีอำนาจวาสนา ก็อย่าลืมตัว อย่าประมาท
  17. ชั่วช่างชี ดีช่างสงฆ์
    หมายถึง ใครจะเป็นอะไรก็ช่าง ไม่ควรถือเอาเป็นธุระ
  18. ช้า ๆ ได้พร้าสองเล่มงาม ด่วนได้สามผลามมักพลิกแพลง
    หมายถึง จะทำอะไรก็ทำอย่างมีสติ รอบคอบ แม้จะช้าไปบ้างก็ได้ผลดี แต่ถ้าทำอย่างรีบร้อน ไม่พินิจพิเคราะห์ให้ดีก่อน อาจผิดพลาดเสียหายได้ง่าย
  19. ช้างสาร งูเห่า ข้าเก่า เมียรัก อย่าได้ไว้วางใจ
    หมายถึง บุคคลที่ใกล้ชิด ย่อมรู้เรื่องราวและความลับของเราหมด บุคคลประเภทนี้ ถ้ากลับกลายเป็นศัตรูแล้วจะเป็นศัตรูที่ร้ายที่สุด ดังนั้นจึงไม่ควรไว้วางใจจนเกินไป
  20. ชาติเสือต้องไว้ลาย ชาติชายต้องไว้ชื่อ
    หมายถึง ลูกผู้ชายที่ชื่อว่าตนมีความเก่งกล้าสามารถ จะต้องสำแดงวิชาความรู้และความสามารถให้ลือชาปรากฏแก่คนทั่วไป
  21. ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน
    หมายถึง ความซื่อสัตย์ทำให้คนเชื่อใจ มีคนนับถือ ไม่มีวันอดตาย มีคนคอยช่วยเหลือ แต่หากมีนิสัยคดโกง เมื่อถูกจับได้ย่อมไม่มีใครอยากช่วยเหลือหรือเกี่ยวข้องด้วย
  22. ดูช้างให้ดูหน้าหนาว ดูสาวให้ดูหน้าร้อน
    หมายถึง หน้าหนาวช้างจะตกมัน จะเห็นความห้าวหาญดุดัน พอหน้าร้อนอากาศอ้าว ผู้หญิงก็ใช้ผ้าน้อยชิ้น หรือผ้าบาง ๆ ทำให้มองเห็นรูปร่างทรวดทรงและผิวพรรณของผู้หญิง
  23. ดูวัวให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่ ถ้าจะดูให้แน่ต้องดูถึงย่าถึงยาย
    หมายถึง วัวที่มีลักษณะดีนั้นให้ดูที่หาง การที่จะเลือกผู้หญิงมาเป็นคู่ครอง ต้องดูไปจนถึงแม่ด้วย เพราะลูกกับแม่ก็มักจะมีลักษณะนิสัยคล้ายคลึงกัน
  24. ต้นคดปลายตรง
    หมายถึง คนชั่วที่กลับตัวเป็นคนดี
  25. ตบมือข้างเดียวไม่ดัง
    หมายถึง ทำอะไรฝ่ายเดียวไม่เกิดผล
  26. ตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงา
    หมายถึง ให้รู้จักเจียมเนื้อเจียมตัวไว้บ้าง
  27. ตักบาตรอย่าถามพระ
    หมายถึง จะให้อะไรแก่ใคร เมื่อทราบว่าเขาเต็มใจรับอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องถามว่าจะเอาไหม
  28. ตามใจปากมากหนี้
    หมายถึง เห็นแก่กินย่อมสิ้นเปลืองมาก

คำสุภาษิตหมวด ถ - ฟ

  1. ถ้าไม่มีไฟ ที่ไหนจะมีควัน
    หมายถึง เมื่อมีผลออกมา มันต้องมีเหตุแน่ ๆ
  2. ถี่ลอดตาช้าง ห่างลอดตาเล็น
    หมายถึง ทำอะไรดูเหมือนจะละเอียดถี่ถ้วนดี แต่ความจริงแล้วไม่รอบคอบ หรือบางทีก็ดูเหมือนจะใช้สอยอย่างกระเหม็ดกระแหม่ในบางเรื่องแต่อีกเรื่องหนึ่งกลับสุรุ่ยสุร่าย
  3. ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว
    หมายถึง คนเราทำอย่างไรก็จะได้อย่างนั้น
  4. ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม
    หมายถึง ประพฤติอย่างไร ธรรมะจึงจะตามรักษาผู้นั้นได้
  5. นกน้อยทำรังแต่พอตัว
    หมายถึง เป็นผู้น้อยทำอะไรต้องดูให้พอสมควรกับฐานะของตนเช่นมีเงินไม่มากนักก็สร้างบ้านพอประมาณมิใช่สร้างใหญ่โตเพิ่มภาระหนี้สินให้ครอบครัว
  6. นอนสูงให้นอนคว่ำ นอนต่ำให้นอนหงาย
    หมายถึง เมื่อนอนในที่สูง ถ้านอนคว่ำ อะไรผ่านไปผ่านมาข้างล่างก็มองเห็นหมด และเมื่อนอนในที่ต่ำ ถ้านอนหงาย อะไรผ่านไปผ่านมาข้างบนก็มองเห็นหมด
  7. น้ำขึ้นให้รีบตัก
    หมายถึง เมื่อเวลามีบุญมีวาสนา อย่างจะทำความดีอะไรก็รีบทำ ๆ เสีย
  8. น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า
    หมายถึง ทุกคนต้องพึ่งพาอาศัยกัน ต้องเห็นอกเห็นใจกัน จึงควรผูกไมตรีกันไว้
  9. น้ำลึกหยั่งได้ น้ำใจหยั่งยาก
    หมายถึง น้ำลึกเป็นเรื่องรูปธรรม เราหาวัตถุมาวัดได้ แต่น้ำใจเป็นเรื่องนามธรรม ไม่มีเครื่องวัด
  10. ในน้ำมีปลาในนามีข้าว
    หมายถึง ดินแดนที่มีความอุดมสมบูรณ์ ผู้คนไม่อดอยากปากแห้ง โดยเทียบได้กับในแหล่งน้ำทุกที่มีปลาให้จับเป็นอาหารและในนาก็มีข้าวอุดมสมบูรณ์
  11. บุญมา ปัญญาช่วย ที่ป่วยก็หาย ที่หน่ายก็รัก
    หมายถึง เวลาที่โชคดี อะไร ๆ ก็มีผลปรากฎที่ดีไปทุกอย่าง
  12. ปล่อยเสือเข้าป่า ปล่อยปลาลงน้ำ
    หมายถึง ปล่อยศัตรูสำคัญหรือโจรผู้ร้าย ที่ตกอยู่ในอำนาจให้พ้นไปนั้น จะทำให้เขากลับมีกำลังและอาจกลับเข้ามาก่อความเดือดร้อนได้อีก
  13. ปลูกเรือนต้องตามใจผู้อยู่ ผูกอู่ต้องตามใจผู้นอน
    หมายถึง จะทำอะไรก็ต้องตามใจผู้ที่จะได้รับผล
  14. ปากเป็นเอก เลขเป็นโท หนังสือเป็นตรี ชั่วดีเป็นตรา
    หมายถึง คนพูดเก่งพูดเป็นมีแต้มต่อกว่าความรู้เพียงอย่างเดียว
  15. ปากเป็นเอกเลขเป็นโท
    หมายถึง การพูดจาสำคัญกว่าวิชาหนังสือ
  16. ปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม
    หมายถึง ยังเป็นเหมือนเด็กไม่มีความคิด
  17. ผิดเป็นครู
    หมายถึง ผิดแล้วจำไว้จะได้ไม่ทำอีก
  18. ฟังความข้างเดียว
    หมายถึง เชื่อถือแต่ฝ่ายเดียวโดยไม่ฟังความอีกฝ่ายหนึ่ง
  19. ไฟในอย่านำออก ไฟนอกอย่านำเข้า
    หมายถึง เรื่องราวไม่ดีภายในครอบครัว / องค์กร / หน่วยงาน ไม่ควรนำไปเล่าให้คนภายนอกฟัง และเรื่องราวไม่ดี คำนินทาว่าร้ายที่คนภายนอกพูดถึงคนภายในก็ไม่ควรนำมาเล่าให้ฟัง

คำสุภาษิตหมวด ม - ห

  1. มีเงินเขานับว่าเป็นน้อง มีทองเขานับว่าเป็นพี่
    หมายถึง เมื่อมั่งมีเงินมีทองแล้ว ใคร ๆ ก็ประจบอยากเข้ามาเป็นญาติพี่น้องด้วย
  2. มีเงินมีทองเจรจาได้ มีไม้มีไร่ปลูกเรือนงาม
    หมายถึง ถ้ามีเงินมีทองแล้วจะพูดอะไรก็มักจะสำเร็จ ถ้ามีไม้มีที่แล้ว ก็ย่อมปลูกเรือนได้สวยงาม
  3. ไม่มีมูลฝอยหมาไม่ขี้
    หมายถึง ถ้าไม่มีอะไรเป็นเค้ามูลอยู่ ก็ย่อมไม่มีเรื่องเกิดขึ้น
  4. ไม้ลำเดียวยังต่างปล้อง พี่กับน้องยังต่างใจ
    หมายถึง คือคนเรา นานาจิตตัง มีความเห็นไม่เหมือนกัน
  5. ไม่เห็นน้ำ อย่าเพิ่งตัดกระบอก ไม่เห็นกระรอก อย่าเพิ่งโก่งหน้าไม้
    หมายถึง อย่าด่วนทำอะไรล่วงหน้า โดยที่ยังไม่ทราบว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในภายหน้า จะเหนื่อยเปล่า
  6. ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก
    หมายถึง จะอบรมสั่งสอนอะไรก็ทำเสียตั้งแต่เด็ก เพราะอบรมสั่งสอนง่าย จะสอนให้เป็นอะไรก็ได้ ส่วนคนแก่นั้นสอนยาก
  7. รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ
    หมายถึง รักจะคบกันนาน ๆ ให้ตัดความคิดอาฆาตพยาบาทออกไป รักจะอยู่สั้น ๆ ให้คิดอาฆาต
  8. รักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี
    หมายถึง วัวถ้าไม่ผูกไว้ ก็อาจหายได้ ถ้าลูกดื้อ พ่อแม่ก็ต้องดุต้องตีบ้าง
  9. รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม
    หมายถึง การศึกษาหาความรู้ไว้ ยิ่งมากยิ่งดี เพราะการมีความรู้มาก ไม่เหมือนการแบกข้าวแบกของ ซึ่งจะรู้สึกว่าหนักบ่า
  10. รู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นหาง
    หมายถึง รู้จักเอาตัวรอดหรือปรับตัวให้เข้ากับเหตุการณ์
  11. เรือล่มเมื่อจอดตาบอดเมื่อแก่
    หมายถึง ทำอะไรต่ออะไรดีมาตลอด แต่พอเสร็จกลับไม่ได้ผลอะไร หรือมาล้มเหลวเมื่อปลายมือ หรือในตอนท้าย
  12. ลมไม่พัด ใบไม้ไม่ไหว
    หมายถึง ไม่มีอะไรเป็นเค้ามูลมาก่อนแล้ว ก็คงไม่มีเรื่องมีราวเกิดขึ้นเป็นแน่
  13. วันพระไม่ได้มีหนเดียว
    หมายถึง วันหน้ายังมีโอกาสอีก
  14. วัวใครก็เข้าคอกคนนั้น
    หมายถึง ส่วนของใครก็เป็นของคนนั้น ไม่ก้าวก่ายหรือก้ำเกินในผลประโยชน์ของกันและกัน
  15. เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร
    หมายถึง การให้อภัย คือการยุติความบาดหมางทั้งปวง ไม่จองเวรจองกรรมกัน เวรกรรมก็จะไม่เกิดขึ้นใหม่
  16. สองหัวดีกว่าหัวเดียว
    หมายถึง ร่วมกันคิด ร่วมกันปรึกษา
  17. สอนเด็ก สอนง่าย สอนผู้ใหญ่ สอนยาก
    หมายถึง จะอบรมสั่งสอนอะไรก็ทำเสียตั้งแต่เด็ก เพราะอบรมสั่งสอนง่าย จะสอนให้เป็นอะไรก็ได้ ส่วนคนแก่นั้นสอนยาก
  18. สำเนียงบอกภาษากิริยาส่อสกุล
    หมายถึง การแสดงออกทางการพูดหรือกิริยามารยาท ที่จะชี้ให้เห็นถึงพื้นฐานการในการเลี้ยงดู อบรมสั่งสอน
  19. สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น
    หมายถึง การบอกเล่าบอกต่อผ่านคนมามากๆ ก็ไม่เท่ากับเราได้เห็นด้วยตาตนเอง อย่าเพิ่งไปเชื่อสิ่งที่คนบอกต่อ ๆ กันมา จะจริงหรือไม่ต้องไปสัมผัสไปเห็นด้วยตัวเอง
  20. สี่ตีนยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง
    หมายถึง คนเราแม้จะมีความรู้สูงอย่างนักปราชญ์ ก็อาจผิดพลาดได้เหมือนกัน ทุกคนจึงไม่ควรประมาท
  21. เสียน้อย เสียยาก เสียมาก เสียง่าย
    หมายถึง เวลาจะต้องเสียเพียงเล็กน้อย ไม่อยากจะเสีย แต่พอถึงคราวต้องเสียมาก ๆ รับควักเงินให้ทันที
  22. หญิงสามผัว ชายสามโบสถ์ อย่าได้คบ
    หมายถึง แสดงว่ามีจิตใจรวนเร คบเป็นเพื่อนตายไม่ได้ เพราะเมื่อถึงคราวคับขัน อาจปลีกตัวหนีเอาตัวรอดไปตามลำพังได้
  23. หนักเอาเบาสู้
    หมายถึง ขยันขันแข็งไม่เกี่ยงงาน
  24. หน้าต่างมีหู ประตูมีช่อง
    หมายถึง ความลับรักษาได้ยาก
  25. ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว
    หมายถึง ทำทุกข์ให้แก่ผู้ใด เคราะห์กรรมที่ทำกับเขา อาจตกตามมาถึงตัวเองบ้าง

คำสุภาษิตหมวด อ

  1. อดเปรี้ยวไว้กินหวาน
    หมายถึง ให้มีความอดทน อดใจรอผลข้างหน้าที่จะดีกว่า
  2. อย่าแกว่งเท้าหาเสี้ยน
    หมายถึง อย่าหาเรื่องใส่ตัว การพูดหรือทำอะไรก้าวก่ายไปถึงผู้อื่นโดยมิบังควร ย่อมทำให้ตนได้รับความเดือดร้อนโดยไม่จำเป็น
  3. อย่าคบคนจร นอนหมอนหมิ่น
    หมายถึง อย่าคบคนจร ที่เราไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าหรือไม่รู้จักประวัติเสียก่อน
  4. อย่าชักน้ำเข้าลึก อย่าชักศึกเข้าบ้าน
    หมายถึง อย่าทำอะไรที่เป็นเหตุให้อันตรายมาถึงตัว
  5. อย่าชิงสุกก่อนห่าม
    หมายถึง การกระทำอะไรต้องให้เป็นไปตามจังหวะขั้นตอนของมัน ถ้าทำผิดลำดับอาจเสียหาย
  6. อย่าตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
    หมายถึง อย่าทำอะไรที่ต้องเสียทรัพย์โดยไม่ได้ประโยชน์คุ้มกับเงินทองที่ต้องเสียไป
  7. อย่าติเรือทั้งโกลน
    หมายถึง อย่าเพิ่งติสิ่งที่ยังทำไม่เสร็จหรือยังไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร
  8. อย่าถือคนบ้าอย่าว่าคนเมา
    หมายถึง อย่าหาความจากคนที่ไม่มีสติสมบูรณ์ เพราะไร้ซึ่งประโยชน์ในการเจรจา
  9. อย่าฟื้นฝอยหาตะเข็บ
    หมายถึง อย่ารื้อเอาเรื่องเก่า ๆ ที่ล่วงเลยไปแล้วขึ้นมาพูดให้สะเทือนใจกัน
  10. อย่าเลี้ยงลูกเสือลูกจระเข้
    หมายถึง อย่าเอาลูกโจรหรือลูกคนชั่วคนเลวมาเลี้ยง เพราะอาจสร้างความลำบากเดือดร้อนให้แก่ผู้เลี้ยงก็ได้
  11. อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน จะจนใจเอง
    หมายถึง อย่าวางใจหรือไว้วางใจใครคนอื่นง่ายเกินไป จะเป็นเราที่เดือดร้อนในภายหลังได้
  12. อย่าสอนหนังสือสังฆราช
    หมายถึง อย่าไปสอนผู้รู้ เพราะเขารู้อยู่แล้ว
  13. อย่าหักด้ามพร้าด้วยเข่า
    หมายถึง อย่าใช้อำนาจบังคับอย่างหักโหมรุนแรง เพื่อให้ผู้อื่นทำตามความประสงค์ของตน เพราะนอกจากจะไม่สำเร็จแล้ว ตัวเองก็อาจเดือดร้อน
  14. อย่าเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ
    หมายถึง อย่าลดตัวลงไปสู้กับคนชั่วต่ำ มีแต่จะเสียศักดิ์ศรี เพราะไม่คู่ควรกัน
  15. อย่าเอามะพร้าวห้าวไปขายสวน
    หมายถึง อย่าเอาสิ่งของหรืออะไรก็ตามแสดงต่อผู้ที่มีความรู้ความชำนาญในสิ่งนั้นเป็นที่ลือชาปรากฏอยู่แล้ว เพราะจะทำให้ดูเหมือนว่าตนเป็นคนโง่เขลา เบาปัญญา หรือเซ่อเซอะอะไรทำนองนั้น
  16. อย่าเอาลูกเขามาเลี้ยง อย่าเอาเมี่ยงเขามาอม
    หมายถึง อย่าเอาของคนอื่นมาชื่นชมยินดี
  17. อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ปั้นวัวปั้นควายให้ลูกท่านเล่น
    หมายถึง เมื่ออยู่บ้านใคร อย่าอยู่เปล่า ควรทำการทำงานช่วยเหลือเขาเท่าที่จะทำได้

หวังว่าทุกคนคงได้อิ่มเอมใจกับคำสุภาษิตทั้ง 100 สำนวนที่แบ่งปันกันไปแล้วนะคะ และหวังว่าสำนวนเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ให้สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้บ้าง

หากยังมีสำนวนที่ตกหล่นไปหรือสำนวนไหนที่ไม่ได้กล่าวถึง สามารถแจ้งหรือแนะนำเพิ่มเติมกันเข้ามาได้เลยค่ะ

ชอบเนื้อหาชุดนี้ กดให้คะแนน 5 ดาวกับเราได้เลยจ้า
สุภาษิตไทย Team

เกี่ยวกับผู้เขียน: สุภาษิตไทย Team

ทีม สุภาษิตไทย คือกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาไทยที่ทุ่มเทในการให้ข้อมูลที่ครอบคลุมและถูกต้องเกี่ยวกับคำสุภาษิต ทีมของเรามีนักภาษาศาสตร์ และบุคลากรที่มีประสบการณ์มายาวนาน