การจับตัวฆาตกรมาลงโทษได้หลังจากพบหลักฐานโดยบังเอิญ
ประเภทสำนวน
"กระดูกร้องไห้" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นคำที่มีความหมายเฉพาะ ไม่สามารถแปลความหมายตรงตัวได้ เมื่อได้ยินว่า 'กระดูกร้องไห้' ไม่สามารถเข้าใจความหมายได้ทันที ต้องตีความเป็นนัยเฉพาะ
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้ใช้กับผู้ที่ได้ทำร้ายหรือทรยศต่อผู้มีพระคุณที่ล่วงลับไปแล้ว โดยเฉพาะบุพการีหรือครูบาอาจารย์ มีความเชื่อว่าเมื่อใดที่ลูกหลานหรือศิษย์ปฏิบัติตนไม่ดี อกตัญญู แม้กระทั่งกระดูกของผู้ตายก็จะร้องไห้ด้วยความเสียใจในความไม่ดีนั้น สะท้อนถึงความเชื่อของคนไทยเรื่องการตอบแทนบุญคุณและการไม่ลบหลู่ผู้ล่วงลับ
ตัวอย่างการใช้สำนวน "กระดูกร้องไห้" ในประโยค
- แม่เลี้ยงลูกมาด้วยความลำบาก พอแม่ตายไปลูกกลับขายบ้านที่แม่ทิ้งไว้ให้เอาเงินไปเที่ยวเตร่ ถ้าแม่รู้เข้า กระดูกแม่คงร้องไห้แน่ๆ
- พ่อเคยสั่งไว้ว่าให้ช่วยเหลือคนจน แต่เมื่อพ่อไม่อยู่แล้ว ลูกกลับทำมาหากินเอาเปรียบคนอื่น นี่แหละที่เรียกว่า กระดูกพ่อร้องไห้
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี