เรื่องที่กำลังจะทำนั้นจะทำให้สำเร็จนั้นทำได้ยากลำบาก ต้องใช้ความพยายามและความสามารถอย่างมาก เปรียบเสมือนการ กลิ้งครกขึ้นภูเขา
ประเภทสำนวน
"กลิ้งครกขึ้นภูเขา" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นข้อความเปรียบเทียบที่มีความหมายแฝงที่ต้องตีความ เปรียบเปรยถึงการทำงานที่ยากลำบากมากจนแทบเป็นไปไม่ได้ ไม่ใช่คำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต และไม่ใช่คำเฉพาะที่แปลไม่ได้เหมือนสำนวนไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มาจากการเปรียบเทียบกับการกลิ้งครกซึ่งเป็นของหนักขึ้นภูเขาที่สูงชัน เป็นการกระทำที่ต้องใช้แรงมหาศาล ยากลำบากอย่างยิ่ง และแทบเป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ ใช้เปรียบเทียบกับการทำงานหรือภารกิจที่ยากลำบากมาก มีอุปสรรคสูง และเหนื่อยล้าอย่างแสนสาหัส แต่ยังพยายามทำอยู่
ตัวอย่างการใช้สำนวน "กลิ้งครกขึ้นภูเขา" ในประโยค
- ฉันต้องสอนคอมพิวเตอร์ให้คุณย่าวัย 85 ปีที่ไม่เคยใช้เทคโนโลยีเลย รู้สึกเหมือนกลิ้งครกขึ้นภูเขาเลยล่ะ
- การฟื้นฟูบริษัทที่มีหนี้สินล้นพ้นตัวในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำแบบนี้ เหมือนกับกลิ้งครกขึ้นภูเขา แต่ผมก็จะพยายามต่อไป
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี