เริ่มอะไรแล้วต้องทําต่อให้เสร็จ
ประเภทสำนวน
"ก่อแล้วต้องสาน" จัดว่าเป็น สุภาษิต เพราะว่า เป็นคำสอนโดยตรงที่ให้ข้อคิดชัดเจนว่าเมื่อเริ่มทำสิ่งใดแล้วต้องทำให้สำเร็จ เข้าใจความหมายได้ทันทีโดยไม่ต้องตีความ มีลักษณะเป็นข้อคิดที่ใช้สอนในการดำเนินชีวิต
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้เปรียบเทียบกับการสานสิ่งของ เช่น กระบุง ตะกร้า หรือเครื่องจักสาน ที่เมื่อเริ่มก่อโครงร่างแล้ว จะต้องสานต่อให้เสร็จสมบูรณ์จึงจะใช้ประโยชน์ได้ เปรียบเหมือนการทำงานหรือกิจการใดๆ ที่เมื่อเริ่มต้นแล้ว ต้องทำให้สำเร็จลุล่วง ไม่ทิ้งกลางคัน
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ก่อแล้วต้องสาน" ในประโยค
- โครงการนี้เราลงทุนไปมากแล้ว ก่อแล้วต้องสาน เราต้องดำเนินการต่อให้สำเร็จ
- พ่อสอนเสมอว่า ก่อแล้วต้องสาน อย่าเป็นคนทำอะไรไม่จริงจัง เริ่มแล้วทิ้งกลางคัน
- การศึกษาก็เหมือนกับสำนวน ก่อแล้วต้องสาน เมื่อเริ่มเรียนแล้วต้องพยายามเรียนให้จบ
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี