การที่คน ๆ หนึ่งทำสิ่งใดที่ยากพร้อม ๆ กันทำให้ล้มเหลวทั้งสองสิ่งนั้น
การที่คน ๆ หนึ่งทำสิ่งใดที่ยากพร้อม ๆ กัน ทำให้ล้มเหลวทั้งสองสิ่งนั้น
สำนวนนี้นิยมใช้กับผู้ชายที่เกี้ยวผู้หญิงสองคนในเวลาเดียวกัน ซึ่งผลสุดท้ายแล้วผู้ชายคนนั้นจะมีปัญหาตามมา
หมายจะเอาให้ได้ทั้ง2อย่าง,เสี่ยงทำการพร้อมๆกันซึ่งอาจไม่สำเร็จทั้ง2อย่าง
ประเภทสำนวน
"จับปลาสองมือ" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นคำเปรียบเทียบที่มีความหมายแฝง ไม่ใช่คำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต แต่ผู้ฟังต้องตีความเพิ่มเติม มีลักษณะการเปรียบเปรยพฤติกรรมของคนที่ทำอะไรพร้อมกันหลายอย่างจนไม่ได้อะไรเลย เหมือนการพยายามจับปลาพร้อมกันทั้งสองมือแต่ไม่ได้ปลาสักตัว
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
คำพังเพยนี้มีที่มาจากภาพของคนที่พยายามจับปลาในน้ำพร้อมกันทั้งสองมือในเวลาเดียวกัน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเป็นเรื่องยาก เพราะปลาว่ายน้ำเร็วและลื่น การใช้สองมือพร้อมกันจะทำให้ไม่มีสมาธิจับปลาตัวใดตัวหนึ่งให้ได้ สุดท้ายอาจไม่ได้ปลาเลย ใช้เปรียบเทียบกับการที่คนเราทำหลายสิ่งพร้อมกันโดยหวังผลสำเร็จทั้งหมด แต่สุดท้ายกลับล้มเหลวทั้งหมด
ตัวอย่างการใช้สำนวน "จับปลาสองมือ" ในประโยค
- นักศึกษาคนนี้ทั้งเรียนเต็มเวลา ทั้งทำงานพิเศษสองที่ สุดท้ายเรียนก็แย่ งานก็ไม่ดี นี่แหละที่เรียกว่าจับปลาสองมือ
- อย่าพยายามจับปลาสองมือเลย ถ้าอยากได้งานนี้ก็ต้องทุ่มเทเต็มที่ ไม่ใช่ไปสมัครงานหลายที่แล้วทำงานไม่เต็มที่
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี
ประเภทสำนวน
"จับปลาสองมือ" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นการเปรียบเทียบพฤติกรรมมนุษย์ที่โลภหรือทะเยอทะยานมากเกินไป มีลักษณะของการเปรียบเปรยที่แฝงข้อคิด ไม่ใช่คำสอนโดยตรงอย่างสุภาษิต และมีความหมายเชิงตีความที่ต้องทำความเข้าใจเพิ่มเติม
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มาจากการเปรียบเทียบกับการที่คนพยายามจับปลาพร้อมกันสองตัวด้วยมือทั้งสองข้าง แต่เนื่องจากปลาเป็นสัตว์ที่ลื่นและว่องไว เมื่อพยายามจับพร้อมกันสองตัว มักจะทำให้ปลาทั้งสองหลุดมือไปหมด สื่อถึงคนที่โลภมากหรือทำหลายสิ่งพร้อมกัน จนท้ายที่สุดไม่ประสบความสำเร็จสักอย่าง
ตัวอย่างการใช้สำนวน "จับปลาสองมือ" ในประโยค
- นายมิ่งทำงานสองบริษัทในเวลาเดียวกัน สุดท้ายผลงานแย่ทั้งสองที่จนโดนไล่ออกทั้งคู่ นี่แหละจับปลาสองมือ
- เธอกำลังจับปลาสองมือนะ คบผู้ชายพร้อมกันสองคนแบบนี้ สุดท้ายเธออาจจะไม่ได้ใครเลย
- ถ้าคุณอยากเรียนเก่งก็ควรเลือกให้ชัดว่าจะเรียนสายไหน อย่าจับปลาสองมือเรียนไปพร้อมกันหลายสาขา เดี๋ยวจะไม่เชี่ยวชาญสักอย่าง
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี
ประเภทสำนวน
"จับปลาสองมือ" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นคำเปรียบเทียบพฤติกรรมของคนกับการจับปลาพร้อมกันสองตัว มีความหมายแฝงที่ต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ใช่คำสอนโดยตรงและไม่ใช่สำนวนที่มีความหมายพิเศษที่แปลตรงตัวไม่ได้
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
มาจากภาพของคนที่พยายามจับปลาด้วยมือเปล่าพร้อมกันทั้งสองตัว ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเมื่อพยายามจับพร้อมกัน มักจะทำให้จับไม่ได้เลยสักตัว เพราะต้องใช้ความพยายามและสมาธิในการจับปลาเพียงตัวเดียวให้สำเร็จก่อน
ตัวอย่างการใช้สำนวน "จับปลาสองมือ" ในประโยค
- เธอกำลังจับปลาสองมือชัดๆ ทั้งคบแฟนเก่าไว้ แต่ก็แอบคุยกับคนใหม่ สุดท้ายอาจจะไม่ได้ใครเลย
- บริษัทพยายามขยายสาขาในสองเมืองพร้อมกันทั้งที่มีเงินทุนจำกัด เหมือนกำลังจับปลาสองมือ น่าจะโฟกัสที่เมืองใดเมืองหนึ่งให้สำเร็จก่อน
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี