การกระทำการใด ๆ ที่ต้องพยายามด้วยตนเองก่อน โดยยังไม่ขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นในขั้นต้น
ประเภทสำนวน
"ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน" จัดว่าเป็น สุภาษิต เพราะว่า เป็นคำสอนที่ให้หลักคิดหรือข้อคิดโดยตรง มีความชัดเจนในตัวเองโดยไม่ต้องตีความซับซ้อน และเป็นคำสอนตามหลักพระพุทธศาสนา แสดงคุณธรรมและหลักการที่ดีงามที่มนุษย์ควรยึดถือ
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
มาจากคาถาบาลีในพระพุทธศาสนา 'อัตตา หิ อัตตโน นาโถ' แปลว่า 'ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน' เป็นหลักธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงสอนให้คนเราพึ่งพาตนเอง ไม่หวังพึ่งผู้อื่น ให้ขวนขวายหาความรู้ พัฒนาตนเอง และแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน" ในประโยค
- ถึงแม้จะมีครอบครัวและเพื่อนคอยช่วยเหลือ แต่เราก็ต้องยึดหลักตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน เพราะสุดท้ายชีวิตเราก็ต้องรับผิดชอบเอง
- คุณพ่อมักสอนลูกๆ เสมอว่า ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน จงอย่าหวังให้คนอื่นมาช่วยเหลือเรา หากเราไม่ช่วยเหลือตัวเองก่อน
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี