ทำการสิ่งใด ถ้ากลัวหมดเปลืองย่อมไม่ได้ผล
ประเภทสำนวน
"ทำนาออมกล้า ทำปลาออมเกลือ" จัดว่าเป็น สุภาษิต เพราะว่า เป็นคำสอนโดยตรงที่ให้แนวทางการดำเนินชีวิตอย่างประหยัด รู้จักอดออม และมีความหมายชัดเจนในตัวเอง ไม่ต้องตีความเพิ่มเติม สามารถเข้าใจได้ทันทีว่าสอนให้รู้จักเก็บออมไว้ใช้ในอนาคต
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สุภาษิตนี้มีที่มาจากวิถีชีวิตเกษตรกรรมของคนไทยในอดีต การทำนาออมกล้า คือการที่ชาวนาเก็บเมล็ดพันธุ์ข้าวส่วนหนึ่งไว้สำหรับเพาะปลูกในรอบถัดไป ส่วนการทำปลาออมเกลือ คือการที่ชาวประมงเก็บเกลือไว้สำหรับถนอมอาหารประเภทปลา ทั้งสองกรณีแสดงถึงการมีวิสัยทัศน์ในการเตรียมการไว้ล่วงหน้า เพื่อความมั่นคงในอนาคต
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ทำนาออมกล้า ทำปลาออมเกลือ" ในประโยค
- พ่อแม่มักสอนลูกหลานให้รู้จักทำนาออมกล้า ทำปลาออมเกลือ เพื่อให้มีชีวิตที่มั่นคงในอนาคต
- เขาเป็นคนรู้จักทำนาออมกล้า ทำปลาออมเกลือ แม้จะมีรายได้ไม่มาก แต่ก็เก็บออมไว้ใช้ยามจำเป็นได้เสมอ
- การวางแผนการเงินตั้งแต่อายุยังน้อยคือการทำนาออมกล้า ทำปลาออมเกลือ ที่จะช่วยให้เรามีเงินใช้ยามเกษียณ
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี