น้ำลึกเป็นเรื่องรูปธรรม เราหาวัตถุมาวัดได้ แต่น้ำใจเป็นเรื่องนามธรรม ไม่มีเครื่องวัด
ประเภทสำนวน
"น้ำลึกหยั่งได้ น้ำใจหยั่งยาก" จัดว่าเป็น สุภาษิต เพราะว่า เป็นคำสอนโดยตรงที่ให้ข้อคิดเกี่ยวกับการใช้ชีวิตและมนุษยสัมพันธ์ มีความหมายสมบูรณ์ในตัวเอง และสื่อสารข้อคิดอย่างชัดเจนโดยไม่ต้องตีความมาก
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สุภาษิตนี้สอนให้ระมัดระวังในการคบคนและการไว้ใจผู้อื่น เพราะในขณะที่ความลึกของน้ำสามารถวัดหรือหยั่งได้ด้วยเครื่องมือ แต่ความในใจหรือความรู้สึกนึกคิดของคนนั้นยากที่จะรู้ได้อย่างแท้จริง เนื่องจากมนุษย์มีความซับซ้อนทางความคิด จิตใจ และอาจแสดงออกไม่ตรงกับสิ่งที่อยู่ภายใน
ตัวอย่างการใช้สำนวน "น้ำลึกหยั่งได้ น้ำใจหยั่งยาก" ในประโยค
- คุณอาจจะรู้จักเขามานาน แต่ก็อย่าเพิ่งไว้ใจเขาเกินไป เพราะน้ำลึกหยั่งได้ น้ำใจหยั่งยาก เรารู้ได้ยากว่าเขาคิดอะไรอยู่
- แม้จะเป็นเพื่อนสนิทกันมานาน แต่ฉันก็ยังแปลกใจที่เขาทรยศหักหลังฉันได้ จริงอยู่ที่ว่าน้ำลึกหยั่งได้ น้ำใจหยั่งยาก
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี