พูดจาตลบตะแลงพลิกแพลงไปมาจนจับคำพูดไม่ทัน
ประเภทสำนวน
"มะกอกสามตะกร้าปาไม่ถูก" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นถ้อยคำที่มีลักษณะเปรียบเทียบพฤติกรรมบางอย่าง มีความหมายแฝงที่ต้องตีความ ไม่ใช่คำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต และไม่ใช่วลีเฉพาะที่แปลตรงตัวไม่ได้เหมือนสำนวนไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้เปรียบเทียบจากการที่มีมะกอกมากมายถึงสามตะกร้า แต่กลับไม่สามารถปาโดนแม้แต่ลูกเดียว สื่อถึงคนที่พูดมากเกินไป พูดวกวน ฟุ่มเฟือย จนจับใจความสำคัญไม่ได้ หรือทำให้ผู้ฟังสับสน เปรียบเสมือนการมีมะกอกมากมายแต่กลับปาไม่ถูกเป้าหมาย
ตัวอย่างการใช้สำนวน "มะกอกสามตะกร้าปาไม่ถูก" ในประโยค
- หัวหน้าพยายามอธิบายการทำงานให้พนักงานใหม่ฟัง แต่พูดวกไปวนมาจนมะกอกสามตะกร้าปาไม่ถูก ทำให้พนักงานคนใหม่ยิ่งงงกว่าเดิม
- การประชุมครั้งนี้ประธานพูดมะกอกสามตะกร้าปาไม่ถูก ใช้เวลาตั้งชั่วโมงแต่ไม่ได้ข้อสรุปอะไรเลย
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี