เมื่อมั่งมีเงินมีทองแล้ว ใคร ๆ ก็ประจบอยากเข้ามาเป็นญาติพี่น้องด้วย
ประเภทสำนวน
"มีเงินเขานับว่าเป็นน้อง มีทองเขานับว่าเป็นพี่" จัดว่าเป็น สุภาษิต เพราะว่า เป็นข้อความที่ให้ข้อคิดหรือคำสอนโดยตรงเกี่ยวกับค่านิยมในสังคม มีโครงสร้างประโยคที่สมบูรณ์ในตัวเอง และให้คำสอนที่ชัดเจนโดยไม่ต้องตีความเพิ่มเติม
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สุภาษิตนี้สะท้อนค่านิยมของสังคมที่ให้ความสำคัญกับทรัพย์สินและฐานะทางเศรษฐกิจมากกว่าความสัมพันธ์ทางเครือญาติหรือคุณค่าด้านอื่น แสดงให้เห็นว่าผู้คนมักให้เกียรติและนับถือคนที่มีฐานะร่ำรวยมากกว่า โดยใช้คำว่า 'น้อง' และ 'พี่' เป็นสัญลักษณ์แสดงลำดับความเคารพนับถือ
ตัวอย่างการใช้สำนวน "มีเงินเขานับว่าเป็นน้อง มีทองเขานับว่าเป็นพี่" ในประโยค
- สังคมสมัยนี้ยังคงเป็นเหมือนสุภาษิตที่ว่า มีเงินเขานับว่าเป็นน้อง มีทองเขานับว่าเป็นพี่ คนรวยมักได้รับการปฏิบัติดีกว่าคนทั่วไป
- พ่อค้าคนนั้นแต่ก่อนไม่มีใครสนใจ พอรวยขึ้นมาใครๆ ก็เข้าหา จริงดังสุภาษิตที่ว่า มีเงินเขานับว่าเป็นน้อง มีทองเขานับว่าเป็นพี่
- เขาเคยเป็นคนธรรมดา แต่พอถูกหวยรางวัลที่หนึ่ง ญาติพี่น้องที่ไม่เคยติดต่อก็กลับมาหาทันที เห็นได้ชัดว่า มีเงินเขานับว่าเป็นน้อง มีทองเขานับว่าเป็นพี่
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี