โล่งอก, หมดวิตกกังวล, ปลดเปลื้องภาระที่หนักอกหนักใจให้หมดไป
ประเภทสำนวน
"ยกภูเขาออกจากอก" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นวลีเฉพาะที่มีความหมายพิเศษที่ไม่สามารถแปลตรงตัวได้ ไม่ใช่คำสอนโดยตรง (สุภาษิต) และไม่ใช่การเปรียบเทียบที่ต้องตีความเพิ่ม (คำพังเพย) แต่เป็นสำนวนที่ใช้อธิบายความรู้สึกโล่งใจหลังจากปลดเปลื้องปัญหาหรือความกังวล
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้ใช้ภาพพจน์ของการยกภูเขาหนักๆ ออกจากอก (หัวใจ) เพื่อสื่อถึงความรู้สึกโล่งใจ หลังจากที่ได้ระบายความทุกข์ ความกังวล หรือแก้ไขปัญหาที่หนักอึ้งออกไปได้ เปรียบเสมือนการยกภูเขาที่กดทับอยู่บนอกออกไป ทำให้รู้สึกเบาสบาย หายใจได้โล่ง
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ยกภูเขาออกจากอก" ในประโยค
- หลังจากที่ฉันได้พูดความจริงกับเธอไปแล้ว รู้สึกยกภูเขาออกจากอกเลย ไม่ต้องแบกความลับนี้ไว้อีกต่อไป
- พอรู้ว่าลูกสอบติดมหาวิทยาลัยที่หวังไว้ แม่ถึงกับยกภูเขาออกจากอก หลังจากที่เฝ้าเป็นห่วงมาตลอด
- การได้ชำระหนี้ก้อนสุดท้ายทำให้เขารู้สึกยกภูเขาออกจากอก หลังจากต้องแบกภาระนี้มานานหลายปี
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี