เอาของมีค่าให้คนที่ไม่รู้จักค่าของสิ่งนั้น
ประเภทสำนวน
"ยื่นแก้วให้วานร" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นข้อความที่มีลักษณะเปรียบเปรย ต้องตีความหมายแฝงเพิ่มเติม เปรียบเทียบพฤติกรรมการให้สิ่งมีค่าแก่ผู้ที่ไม่รู้คุณค่า เป็นการเปรียบเทียบที่ต้องตีความต่อ ไม่ใช่คำสอนโดยตรง
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มาจากแนวคิดว่าวานรหรือลิงเป็นสัตว์ที่ไม่รู้จักคุณค่าของของมีค่าอย่างแก้ว อาจทำแตกหรือทิ้งขว้างเพราะไม่เข้าใจค่าของมัน การ 'ยื่นแก้วให้วานร' จึงหมายถึงการมอบสิ่งมีค่าหรือสำคัญให้กับผู้ที่ไม่รู้คุณค่า ไม่เห็นความสำคัญ ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างถูกต้อง หรืออาจทำให้เสียหาย
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ยื่นแก้วให้วานร" ในประโยค
- การมอบหมายงานสำคัญที่ต้องใช้ความละเอียดให้กับพนักงานที่ทำงานลวกๆ เหมือนกับยื่นแก้วให้วานร
- พ่อแทบล้มละลายเพื่อส่งลูกเรียนต่างประเทศ แต่ลูกกลับไปมั่วสุมเที่ยวเล่นจนถูกไล่ออก นี่มันเหมือนยื่นแก้วให้วานรชัดๆ
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี