รักจะคบกันนาน ๆ ให้ตัดความคิดอาฆาตพยาบาทออกไป รักจะอยู่สั้น ๆ ให้คิดอาฆาต
ประเภทสำนวน
"รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ" จัดว่าเป็น สุภาษิต เพราะว่า เป็นถ้อยคำที่มีลักษณะเป็นคำสอนโดยตรง สอนวิธีการจัดการกับความรักอย่างมีเหตุผล มีข้อคิดที่ชัดเจน ไม่ต้องตีความเพิ่มเติม และเป็นประโยคสมบูรณ์ในตัวเอง
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สุภาษิตนี้สอนให้รู้จักประเมินสถานการณ์และจัดการความสัมพันธ์อย่างมีเหตุผล โดยหากความรักหรือความสัมพันธ์นั้นมีแนวโน้มจะยาวนานแต่มีอุปสรรคมาก อาจต้องตัดใจหรือ 'บั่น' ให้สั้นลง แต่หากความสัมพันธ์นั้นมีระยะสั้นแต่มีคุณค่าและมีความหวัง ก็ควร 'ต่อ' หรือพยายามรักษาไว้ให้ยาวนานขึ้น
ตัวอย่างการใช้สำนวน "รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ" ในประโยค
- เธอกับเขาต่างมีครอบครัวแล้ว คิดว่ารักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ จะดีกว่า จะได้ไม่เป็นทุกข์ไปมากกว่านี้
- แม้จะอยู่ห่างไกลกันคนละประเทศ แต่ฉันกับเธอตั้งใจจะไม่ยอมแพ้ให้กับระยะทาง เพราะเชื่อว่ารักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ และความรักของเราคู่ควรที่จะได้รับการต่อเติมให้งดงาม
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี