ของสิ่งเดียวกัน แต่คนหลาย ๆ คนจะชอบของชิ้นนี้มากน้อยไม่เท่ากัน เพราะรสนิยมของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
ของบางสิ่งอาจถูก เข้ากันได้ดี เหมาะกับคนหนึ่ง แต่อาจไม่เหมาะกับอีกคน
ประเภทสำนวน
"ลางเนื้อชอบลางยา" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นข้อความเปรียบเทียบที่ต้องตีความเพิ่มเติม แสดงถึงการเปรียบเปรยถึงความชอบของแต่ละคนที่แตกต่างกัน ไม่ใช่คำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต และไม่ใช่วลีที่มีความหมายพิเศษเฉพาะแบบสำนวนไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
คำพังเพยนี้มีที่มาจากความคิดที่ว่า คนแต่ละคนมีความชอบความพอใจที่แตกต่างกันไป สิ่งที่คนหนึ่งชอบอาจไม่ถูกใจอีกคนหนึ่งก็ได้ เปรียบได้กับ 'ลางเนื้อ' หรือของกินชนิดหนึ่งที่บางคนชอบ แต่บางคนกลับชอบ 'ลางยา' หรือยาชนิดหนึ่งมากกว่า แสดงให้เห็นถึงรสนิยมที่แตกต่างกันของแต่ละบุคคล
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ลางเนื้อชอบลางยา" ในประโยค
- เขาชอบดูซีรีส์แนวดราม่า ส่วนฉันชอบแนวสืบสวน มันลางเนื้อชอบลางยานั่นแหละ
- เรื่องเลือกคู่ครอง อย่าไปแปลกใจที่เพื่อนสนิทเราชอบคนละสไตล์กับเรา มันลางเนื้อชอบลางยา คนเราไม่เหมือนกัน
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี
ประเภทสำนวน
"ลางเนื้อชอบลางยา" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นถ้อยคำที่มีลักษณะเปรียบเทียบ ใช้คำว่า 'ลาง' (คือ บางคน) มาเปรียบเปรย ไม่ได้ให้คำสอนโดยตรง แต่ต้องตีความเพิ่มเติม
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มาจากแนวคิดที่ว่า แต่ละคนมีความชอบ ความถนัด ความพอใจ หรือเลือกใช้สิ่งต่างๆ ไม่เหมือนกัน ดุจเดียวกับในทางการรักษาโรค ที่บางคนอาจถูกกับยาตัวหนึ่ง ในขณะที่บางคนอาจถูกกับเนื้อ (อาหาร) อีกอย่างหนึ่ง สื่อถึงธรรมชาติของมนุษย์ที่มีความแตกต่างกัน ไม่มีสูตรสำเร็จสำหรับทุกคน
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ลางเนื้อชอบลางยา" ในประโยค
- ทำไมคุณถึงชอบทำงานกลางคืน แต่ฉันถนัดทำงานตอนเช้า ก็ลางเนื้อชอบลางยานี่แหละ ความชอบไม่เหมือนกัน
- พี่ชอบใช้เครื่องสำอางแบรนด์นี้ เพื่อนไม่ชอบเลย บอกว่าแพ้ ก็ลางเนื้อชอบลางยา แต่ละคนผิวไม่เหมือนกัน
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี