กรรมที่ใครสร้างไว้ ย่อส่งผลให้แก่ผู้นั้น
ประเภทสำนวน
"วัวใครเข้าคอกคนนั้น" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นข้อความเปรียบเทียบที่มีความหมายแฝง ต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ใช่คำสอนโดยตรงแบบสุภาษิต และไม่ใช่คำเฉพาะที่แปลตรงตัวไม่ได้แบบสำนวนไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
คำพังเพยนี้มาจากวิถีชีวิตชาวบ้านในสังคมเกษตรกรรม ที่เลี้ยงวัวควาย เมื่อเลิกงานตอนเย็น วัวของใคร เจ้าของก็ต้องนำวัวของตนเข้าคอกของตน เปรียบเหมือนเรื่องหรือปัญหาใด คนที่เกี่ยวข้องหรือรับผิดชอบก็ต้องจัดการเอง คนอื่นไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว
ตัวอย่างการใช้สำนวน "วัวใครเข้าคอกคนนั้น" ในประโยค
- เรื่องทะเลาะกันของสามีภรรยาบ้านนั้น ไม่ต้องไปยุ่ง ปล่อยให้วัวใครเข้าคอกคนนั้น
- เธอไม่ต้องไปช่วยแก้ปัญหาให้เขาหรอกนะ วัวใครเข้าคอกคนนั้น เราไม่ควรไปก้าวก่ายเรื่องของคนอื่น
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี