เสี่ยงเข้าพบทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเป็นอันตราย
ประเภทสำนวน
"ว่ายน้ำหาจระเข้" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นข้อความเปรียบเทียบที่มีความหมายแฝง ต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ใช่คำสอนโดยตรง แต่เป็นการเปรียบเปรยพฤติกรรมของคนที่เสี่ยงอันตรายโดยรู้ตัว
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้เปรียบเทียบกับการกระทำที่เสี่ยงอันตรายโดยเจตนา เหมือนคนที่รู้ว่าในแม่น้ำมีจระเข้อันตราย แต่ยังจงใจลงไปว่ายน้ำหาจระเข้ จึงหมายถึงการที่บุคคลรู้ว่าสิ่งใดหรือสถานการณ์ใดเป็นอันตราย แต่ยังเข้าไปเกี่ยวข้องหรือพัวพันโดยสมัครใจ
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ว่ายน้ำหาจระเข้" ในประโยค
- แม้จะรู้ว่าการไปงานเลี้ยงคืนนี้มีแต่คนชอบดื่มจัด แถมชวนกันขับรถแข่ง แต่เขาก็ยังไป นี่มันเรียกว่าว่ายน้ำหาจระเข้ชัดๆ
- เธอรู้อยู่แล้วว่าคนคนนี้เจ้าชู้มีภรรยาหลายคน แต่ก็ยังยอมคบหากับเขา แบบนี้ก็เหมือนว่ายน้ำหาจระเข้เลยนะ
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี