อย่าใช้อำนาจบังคับอย่างหักโหมรุนแรง เพื่อให้ผู้อื่นทำตามความประสงค์ของตน เพราะนอกจากจะไม่สำเร็จแล้ว ตัวเองก็อาจเดือดร้อน
ประเภทสำนวน
"อย่าหักด้ามพร้าด้วยเข่า" จัดว่าเป็น สุภาษิต เพราะว่า เป็นข้อความที่ให้คำสอนโดยตรง มีความหมายชัดเจนในการสอนเรื่องการปฏิบัติตนที่ถูกต้อง เป็นประโยคสมบูรณ์ที่ให้ข้อคิดทางจริยธรรมได้ทันที โดยไม่ต้องตีความมาก
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สุภาษิตนี้มาจากการใช้ชีวิตประจำวันในสังคมไทยในอดีตที่มักใช้มีดพร้าในการทำงานต่างๆ หากด้ามพร้าเกิดชำรุด แล้วใช้เข่ากดหักทิ้ง จะทำให้บาดเจ็บได้ง่าย สอนให้รู้จักระมัดระวังตัว ไม่ทำสิ่งที่เป็นอันตรายต่อตนเอง รวมถึงการไม่ทำลายของใช้ของตนเองโดยไม่จำเป็น
ตัวอย่างการใช้สำนวน "อย่าหักด้ามพร้าด้วยเข่า" ในประโยค
- พี่ชายเห็นน้องกำลังจะใช้มือเปล่าจับกระจกที่แตก รีบบอกว่า 'อย่าหักด้ามพร้าด้วยเข่านะ ใช้คีมหรือถุงมือจับดีกว่า'
- คุณแม่สอนลูกชายที่จะขับรถย้อนศรด้วยคำว่า 'อย่าหักด้ามพร้าด้วยเข่าลูก เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย'
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี