อย่าประมาทต้องเตรียมให้พร้อม และให้มีสติกำหนดจดจำให้ดี
ประเภทสำนวน
"เข้าเถื่อนอย่าลืมพร้า ได้หน้าอย่าลืมหลัง" จัดว่าเป็น สุภาษิต เพราะว่า เป็นคำสอนที่ให้ข้อคิดโดยตรงแก่ผู้ฟัง มีความหมายที่ชัดเจนว่าควรเตรียมพร้อมและไม่ลืมคนที่เคยช่วยเหลือตนยามมีความสุข มีโครงสร้างที่สมบูรณ์ในตัวเอง ไม่ต้องตีความเพิ่มเติม
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สุภาษิตนี้มีความหมายเป็นการสอนใจ 2 ประการ ส่วนแรก 'เข้าเถื่อนอย่าลืมพร้า' หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมเมื่อจะทำการสิ่งใด โดยมีที่มาจากการเข้าไปในป่าต้องนำพร้าติดตัวไปด้วย เพราะเป็นเครื่องมือสำคัญในการตัดพงหญ้า ทำทาง หรือป้องกันตัว ส่วนที่สอง 'ได้หน้าอย่าลืมหลัง' หมายถึง เมื่อเจริญก้าวหน้าแล้ว อย่าลืมคนที่เคยช่วยเหลือ หรือผู้มีพระคุณ
ตัวอย่างการใช้สำนวน "เข้าเถื่อนอย่าลืมพร้า ได้หน้าอย่าลืมหลัง" ในประโยค
- พ่อแม่สอนลูกๆ เสมอว่า 'เข้าเถื่อนอย่าลืมพร้า ได้หน้าอย่าลืมหลัง' ลูกจะไปทำงานที่ไหน ต้องเตรียมตัวให้พร้อม และหากประสบความสำเร็จ ก็อย่าลืมครอบครัวที่ส่งเสียให้เล่าเรียนมา
- ก่อนเดินทางไปทำงานต่างประเทศ พี่ชายฉันเตือนเสมอว่า 'เข้าเถื่อนอย่าลืมพร้า ได้หน้าอย่าลืมหลัง' ให้เตรียมทักษะภาษาอังกฤษให้ดี และเมื่อประสบความสำเร็จ ก็ให้นึกถึงบ้านเกิด
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี