การมีเพื่อนที่ดีหรือการคบคนดี ย่อมเป็นประโยชน์แก่ตัวเราเอง แต่ถ้าเรามีเพื่อนไม่ดีเรียกว่า คบคนชั่ว เพื่อนก็จะนำแต่ความชั่ว ความอัปราชัย ความพ่ายแพ้มาให้เรา
อัปราชัย ในที่นี้มีความหายเท่ากับ ปราชัย คือจะพ่ายแพ้ หมายถึงไม่เป็นมงคลแก่ตัว
ประเภทสำนวน
"คบคนดีมีศรีแก่ตัว คบคนชั่วอัปราชัย" จัดว่าเป็น สุภาษิต เพราะว่า เป็นถ้อยคำที่มีลักษณะเป็นคำสอนโดยตรง ให้ข้อคิดที่ชัดเจนในการเลือกคบเพื่อน มีความสมบูรณ์ในตัวเอง เข้าใจได้ทันทีโดยไม่ต้องตีความเพิ่มเติม สอนให้เลือกคบคนดีและหลีกเลี่ยงคนไม่ดี
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สุภาษิตนี้สอนเรื่องการเลือกคบเพื่อน ซึ่งเป็นหลักการสำคัญในการดำเนินชีวิต เมื่อคบหาสมาคมกับคนดีมีศีลธรรม จะนำความเจริญและความสุขมาให้ ('มีศรีแก่ตัว') แต่หากคบหากับคนชั่ว ไม่ดี จะนำความเสื่อมเสียและความทุกข์มาให้ ('อัปราชัย' คือความพ่ายแพ้ ความเสื่อม)
ตัวอย่างการใช้สำนวน "คบคนดีมีศรีแก่ตัว คบคนชั่วอัปราชัย" ในประโยค
- พ่อแม่มักสอนลูกเสมอว่า คบคนดีมีศรีแก่ตัว คบคนชั่วอัปราชัย เพราะเพื่อนมีอิทธิพลต่อนิสัยและอนาคตอย่างมาก
- เขาเริ่มติดการพนันและยาเสพติดหลังจากเข้ากลุ่มกับเพื่อนกลุ่มใหม่ เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของคบคนดีมีศรีแก่ตัว คบคนชั่วอัปราชัย
- ครูใช้สุภาษิต คบคนดีมีศรีแก่ตัว คบคนชั่วอัปราชัย เพื่อเตือนนักเรียนให้เลือกคบเพื่อนที่ดี มีความประพฤติเรียบร้อย
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี