ก่อนคบค้าสมาคมกับใคร ดูที่มาที่ไปให้ดี ๆ
จะคบกับใครพิจารณาให้ดีเสียก่อน เช่นเดียวกับการเลือกซื้อผ้า
ประเภทสำนวน
"คบคนให้ดูหน้าซื้อผ้าให้ดูเนื้อ" จัดว่าเป็น สุภาษิต เพราะว่า เป็นคำสอนหรือคำเตือนโดยตรงที่ให้ข้อคิดชัดเจนเกี่ยวกับการเลือกคบคนและเลือกซื้อสินค้า ใช้ภาษารัดกุม เข้าใจได้ทันที เป็นคำสอนที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม ส่งเสริมให้ผู้คนพิจารณาสิ่งต่างๆ อย่างรอบคอบ มีลักษณะเป็นคำสอนที่ครบถ้วนสมบูรณ์ในตัวเอง
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สุภาษิตนี้สอนให้พิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจในเรื่องสำคัญ โดยเปรียบเทียบการเลือกคบคนกับการเลือกซื้อผ้า การดูหน้าคนหมายถึงการพิจารณาลักษณะภายนอก กิริยา ท่าทาง และบุคลิกภาพของคนที่จะคบ ส่วนการดูเนื้อผ้าหมายถึงการพิจารณาคุณภาพของสิ่งที่จะซื้อ สอนให้รู้จักสังเกตและใช้วิจารณญาณก่อนตัดสินใจทั้งในการคบคนและเลือกซื้อสิ่งของ
ตัวอย่างการใช้สำนวน "คบคนให้ดูหน้าซื้อผ้าให้ดูเนื้อ" ในประโยค
- เธอกำลังจะร่วมธุรกิจกับคนที่เพิ่งรู้จักหรือ? คบคนให้ดูหน้า ซื้อผ้าให้ดูเนื้อ ควรศึกษาประวัติและอุปนิสัยของเขาให้ดีก่อน
- พ่อสอนลูกชายเสมอว่า คบคนให้ดูหน้า ซื้อผ้าให้ดูเนื้อ อย่าไว้ใจคนเพียงเพราะเขาพูดจาไพเราะ ต้องดูการกระทำด้วย
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี
ประเภทสำนวน
"คบคนให้ดูหน้าซื้อผ้าให้ดูเนื้อ" จัดว่าเป็น สุภาษิต เพราะว่า เป็นคำสอนโดยตรงที่ให้คำแนะนำชัดเจนในการดำเนินชีวิต ถ่ายทอดข้อคิดที่สมบูรณ์ในตัวเองซึ่งเข้าใจได้ทันทีโดยไม่ต้องตีความมาก และมีความหมายเชิงสั่งสอนเรื่องการเลือกคบคนและเลือกซื้อสิ่งของ
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สุภาษิตนี้เป็นคำสอนให้มีความระมัดระวังในการเลือกคบคน โดยเปรียบเทียบการเลือกคบคนกับการเลือกซื้อผ้า การดูหน้าตาเพื่อดูอุปนิสัยของคนก่อนคบเป็นเพื่อน เหมือนกับการพิจารณาดูเนื้อผ้าให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ เพราะหากเลือกผิด อาจทำให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง
ตัวอย่างการใช้สำนวน "คบคนให้ดูหน้าซื้อผ้าให้ดูเนื้อ" ในประโยค
- พ่อแม่มักสอนลูกหลานว่า คบคนให้ดูหน้า ซื้อผ้าให้ดูเนื้อ จงพิจารณาคนให้ดีก่อนจะคบหาสมาคม
- หนุ่มสาวทุกวันนี้ควรยึดหลัก คบคนให้ดูหน้า ซื้อผ้าให้ดูเนื้อ อย่าเพิ่งไว้ใจใครง่ายๆ จนกว่าจะรู้จักนิสัยใจคอกันจริงๆ
- ครูสอนนักเรียนว่า คบคนให้ดูหน้า ซื้อผ้าให้ดูเนื้อ เพราะเพื่อนที่ไม่ดีอาจชักนำไปในทางที่ผิดได้
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี