ประเภทสำนวน
"ตึงนักมักขาด" จัดว่าเป็น สุภาษิต เพราะว่า เป็นคำสอนที่ให้ข้อคิดโดยตรงเกี่ยวกับการวางตัวหรือการกระทำ อย่างตรงไปตรงมา มีลักษณะเป็นคำสอนที่เข้าใจได้ทันทีโดยไม่ต้องตีความมาก
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สุภาษิตนี้สอนให้รู้จักความพอดี ไม่ควรเคร่งครัดหรือเข้มงวดจนเกินไป เปรียบเหมือนเชือกหรือสายที่ตึงมากเกินไปย่อมขาดได้ง่าย สอนให้รู้จักยืดหยุ่นตามสถานการณ์และความเหมาะสม
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ตึงนักมักขาด" ในประโยค
- หัวหน้างานคนนี้เข้มงวดกับลูกน้องมากเกินไป ตึงนักมักขาด สุดท้ายก็ทำให้ทีมงานลาออกไปเกือบหมด
- พ่อแม่ไม่ควรเข้มงวดกับลูกมากเกินไป ตึงนักมักขาด บางครั้งก็ควรยืดหยุ่นบ้างตามความเหมาะสม
- การบริหารองค์กรต้องระวัง ตึงนักมักขาด ต้องรู้จักผ่อนหนักผ่อนเบาตามสถานการณ์
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี