แม้จะไม่พอใจก็ยังแสดงสีหน้ายิ้มแย้ม
ประเภทสำนวน
"น้ำขุ่นไว้ใน น้ำใสไว้นอก" จัดว่าเป็น สุภาษิต เพราะว่า เป็นคำสอนโดยตรงที่มีความหมายชัดเจน ให้แนวทางปฏิบัติตัวในสังคม มีข้อคิดเตือนใจที่สมบูรณ์ในตัวเอง ไม่ต้องตีความมาก
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สุภาษิตนี้สอนเรื่องการวางตัวในสังคม โดยเปรียบเทียบกับลักษณะของน้ำ คือให้เก็บความรู้สึกที่ไม่ดี ความขุ่นข้องหมองใจไว้ภายใน ไม่แสดงออกมาให้ผู้อื่นเห็น ส่วนด้านนอกให้แสดงกิริยาท่าทางที่สุภาพเรียบร้อย ยิ้มแย้มแจ่มใส เพื่อรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น
ตัวอย่างการใช้สำนวน "น้ำขุ่นไว้ใน น้ำใสไว้นอก" ในประโยค
- ถึงแม้ในใจจะไม่พอใจกับคำพูดของเพื่อนร่วมงาน แต่เธอก็ยังยิ้มและพยักหน้ารับฟัง ปฏิบัติตามน้ำขุ่นไว้ใน น้ำใสไว้นอก
- คุณแม่สอนลูกสาวเสมอว่า 'น้ำขุ่นไว้ใน น้ำใสไว้นอก' จะทำให้อยู่ในสังคมได้อย่างราบรื่น ไม่มีศัตรู
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี