รู้จักเอาตัวรอดหรือปรับตัวให้เข้ากับเหตุการณ์
การรู้จักหลบหลีกเอาตัวรอดจากปัญหา สถานการณ์ที่ลำบากหรืออันตรายได้
ประเภทสำนวน
"รู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นหาง" จัดว่าเป็น สุภาษิต เพราะว่า เป็นคำสอนโดยตรงที่ให้ข้อคิด มีความชัดเจนในตัวเองและเข้าใจได้ทันที โดยสอนให้รู้จักหลบหลีกปัญหาเพื่อความอยู่รอด
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สุภาษิตนี้เปรียบเทียบการรู้จักหลบหลีกกับปีกและหางของนก หรือสัตว์ปีกที่ต้องใช้ทั้งปีกและหางในการบินหลบหลีกอันตราย สอนว่าคนเราต้องรู้จักประนีประนอม ยืดหยุ่น และหลีกเลี่ยงปัญหาหรือความขัดแย้งเมื่อจำเป็น เพื่อความอยู่รอดและความสงบสุขในชีวิต
ตัวอย่างการใช้สำนวน "รู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นหาง" ในประโยค
- พ่อเคยสอนว่า รู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง บางครั้งการถอยคนละก้าวจะทำให้ทุกคนอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
- คนที่อยู่ในองค์กรได้นานต้องรู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง รู้จักผ่อนหนักผ่อนเบาตามสถานการณ์
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี
ประเภทสำนวน
"รู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นหาง" จัดว่าเป็น สุภาษิต เพราะว่า เป็นคำสอนโดยตรงที่ให้ข้อคิดเกี่ยวกับการใช้ชีวิตอย่างรู้จักหลบหลีก มีลักษณะเป็นคำสอนชัดเจน สมบูรณ์ในตัวเอง ไม่ต้องตีความซับซ้อน
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สุภาษิตนี้มีที่มาจากลักษณะการบินและเคลื่อนที่ของนก ซึ่งใช้ปีกช่วยในการพลิกแพลง และใช้หางช่วยในการเลี้ยว หลบหลีกสิ่งกีดขวาง สื่อความหมายว่า คนเราควรรู้จักหลบหลีกเมื่อเผชิญกับอุปสรรคหรือปัญหา ไม่ควรปะทะโดยตรงเสมอไป บางครั้งการถอยเพื่อรอจังหวะที่เหมาะสมเป็นกลยุทธ์ที่ฉลาด
ตัวอย่างการใช้สำนวน "รู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นหาง" ในประโยค
- ในที่ทำงาน เราจำเป็นต้องรู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นหาง ไม่เช่นนั้นอาจเกิดความขัดแย้งกับเพื่อนร่วมงานได้
- ถึงแม้คุณจะเป็นฝ่ายถูก แต่บางครั้งก็ต้องรู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นหาง เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีไว้
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี