การแสดงออกทางการพูดหรือกิริยามารยาท ที่จะชี้ให้เห็นถึงพื้นฐานการในการเลี้ยงดู อบรมสั่งสอน
ประเภทสำนวน
"สำเนียงบอกภาษากิริยาส่อสกุล" จัดว่าเป็น สุภาษิต เพราะว่า เป็นคำสอนหรือข้อคิดโดยตรงที่ให้ความรู้และแนวทางปฏิบัติอย่างชัดเจน มีความสมบูรณ์ในตัวเอง ไม่ต้องตีความเพิ่มเติม สอนให้สังเกตพฤติกรรมและคำพูดของคนเพื่อจะได้รู้ถึงพื้นเพและตัวตนที่แท้จริง
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สุภาษิตนี้มาจากความเชื่อว่าการพูดและการแสดงออกของคนสามารถบ่งบอกถึงภูมิหลังและการอบรมเลี้ยงดูได้ โดย 'สำเนียง' หมายถึงวิธีการพูด น้ำเสียง หรือการออกเสียงที่บ่งบอกถึงถิ่นกำเนิดหรือภาษาแม่ของผู้พูด ส่วน 'กิริยา' หมายถึงการแสดงออกทางพฤติกรรมที่สะท้อนถึงการอบรมและสกุลหรือตระกูลที่เขาเติบโตมา
ตัวอย่างการใช้สำนวน "สำเนียงบอกภาษากิริยาส่อสกุล" ในประโยค
- หลังจากได้พูดคุยกับเธอเพียงไม่กี่นาที ฉันก็รู้ว่าเธอได้รับการอบรมมาอย่างดี สำเนียงบอกภาษา กิริยาส่อสกุล จริงๆ
- แม้เขาจะพยายามปิดบังว่าเคยเป็นนักเลงมาก่อน แต่สำเนียงบอกภาษา กิริยาส่อสกุล คำพูดและท่าทางยังคงฉายแววความห้าวหาญอยู่
- เด็กคนนั้นมีกิริยามารยาทดีมาก ทั้งการไหว้และการพูดจา สำเนียงบอกภาษา กิริยาส่อสกุล เห็นได้ชัดว่าครอบครัวอบรมมาเป็นอย่างดี
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี