ให้ผลประโยชน์แก่ผู้อื่นเพื่อหวังผลตอบแทน
ประเภทสำนวน
"หว่านพืชหวังผล" จัดว่าเป็น สุภาษิต เพราะว่า เป็นคำสอนโดยตรงที่ให้ข้อคิดเกี่ยวกับการทำสิ่งใดด้วยความตั้งใจและคาดหวังผลตอบแทน มีความสมบูรณ์ในตัวเอง ไม่ต้องตีความมาก สามารถเข้าใจได้ทันทีว่าเป็นคำสอนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างการกระทำและผลลัพธ์
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สุภาษิตนี้เปรียบการกระทำของมนุษย์กับกระบวนการเพาะปลูกในธรรมชาติ เมื่อชาวนาหว่านเมล็ดพืช ย่อมต้องการให้เมล็ดนั้นงอกงามและเกิดผลผลิตในอนาคต สะท้อนหลักการที่ว่า การกระทำทุกอย่างย่อมมีเป้าหมายและความคาดหวังอยู่เบื้องหลัง เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่มักทำสิ่งต่างๆ โดยคาดหวังผลตอบแทน
ตัวอย่างการใช้สำนวน "หว่านพืชหวังผล" ในประโยค
- การที่พ่อแม่ส่งลูกเรียนสูงๆ ก็เพราะหว่านพืชหวังผล หวังว่าลูกจะมีอนาคตที่ดี
- การที่บริษัทลงทุนในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ก็เป็นเพราะหว่านพืชหวังผล คาดหวังกำไรในอนาคต
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี