หาประโยชน์เล็ก ๆ น้อย ๆ เบียดบังเอาส่วนที่เหลือเล็ก ๆ น้อย ๆ ไว้ เช่น แม่ครัวมักหาเศษหาเลยจากเงินที่นายมอบให้ไปจ่ายตลาด บางทีก็ใช้ในทางชู้สาว เช่น ทั้ง ๆ ที่แต่งงานแล้ว เขาก็ยังไปหาเศษหาเลยนอกบ้านอีก
ประเภทสำนวน
"หาเศษหาเลย" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นวลีเฉพาะที่ไม่สามารถแปลความหมายตรงตัวได้ ต้องเข้าใจความหมายพิเศษเฉพาะในภาษาไทย มีลักษณะเป็นวลีสั้นๆ ที่ต้องตีความ
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้หมายถึง การพยายามหาช่องทางเพื่อให้ได้มาซึ่งประโยชน์หรือผลกำไรเล็กๆ น้อยๆ แม้จะเป็นส่วนที่คนอื่นมองข้ามหรือไม่สนใจ คำว่า 'เศษ' หมายถึงสิ่งที่เหลือหรือเล็กน้อย และ 'เลย' ในที่นี้หมายถึงการหาประโยชน์เกินกว่าที่ควรได้ สะท้อนพฤติกรรมของคนที่คอยแสวงหาผลประโยชน์ทุกรูปแบบไม่ว่าจะมากหรือน้อย
ตัวอย่างการใช้สำนวน "หาเศษหาเลย" ในประโยค
- เธอเป็นคนชอบหาเศษหาเลย แม้แต่เงินทอนไม่กี่บาทก็ไม่ยอมให้ใคร
- นักธุรกิจรายนี้มีชื่อเสียงในการหาเศษหาเลย จนคู่ค้าหลายรายเบื่อหน่ายและไม่อยากร่วมธุรกิจด้วย
- ฉันไม่ชอบคบคนที่ชอบหาเศษหาเลย เพราะมักจะทำให้เกิดความอึดอัดใจในการใช้ชีวิตร่วมกัน
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี