อายในสิ่งที่ไม่ควรอาย อันทำให้ไม่เกิดประโยชน์
ประเภทสำนวน
"อายครูไม่รู้วิชา อายภรรยาไม่มีบุตร" จัดว่าเป็น สุภาษิต เพราะว่า เป็นคำสอนโดยตรงที่มีข้อคิดชัดเจน บอกถึงหลักการดำเนินชีวิตที่ไม่ควรอายที่จะเรียนรู้หรือทำสิ่งที่ดี แม้ว่าจะช้ากว่าคนอื่น สอนให้กล้าทำในสิ่งที่ถูกต้องโดยไม่ต้องกลัวคำครหา
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สุภาษิตนี้สอนให้ไม่ควรละอายที่จะเรียนรู้วิชาความรู้จากครู แม้จะมีอายุมากแล้ว และไม่ควรละอายที่จะมีบุตรกับภรรยา แม้จะแต่งงานมานาน เพราะทั้งสองอย่างล้วนเป็นสิ่งที่ดีและมีคุณค่า สุภาษิตนี้มุ่งสอนให้คนไม่ยึดติดกับความคิดหรือค่านิยมที่ว่าทุกอย่างต้องทำตามช่วงเวลาที่สังคมกำหนด
ตัวอย่างการใช้สำนวน "อายครูไม่รู้วิชา อายภรรยาไม่มีบุตร" ในประโยค
- คุณลุงอายุ 60 ปี เพิ่งเริ่มเรียนใช้คอมพิวเตอร์ ลูกหลานก็ให้กำลังใจว่า อายครูไม่รู้วิชา อายภรรยาไม่มีบุตร ไม่มีใครแก่เกินเรียน
- ถึงแม้จะเป็นพนักงานใหม่ที่อายุมากกว่าเพื่อนร่วมงาน แต่คุณไม่ต้องอายที่จะถามหรือเรียนรู้ เพราะอายครูไม่รู้วิชา อายภรรยาไม่มีบุตร
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี