ทําตามธรรมเนียมในเรื่องการสู่ขอ ชายหนุ่มกับหญิงสาวที่ต่างก็ผูกสมัครรักใคร่กัน ต่างก็ให้เกียรติซึ่งกันและกัน เข้าตามตรอก ออกตามประตู ก็ว่า
ประเภทสำนวน
"เข้าทางตรอกออกทางประตู" จัดว่าเป็น สุภาษิต เพราะว่า เป็นคำสอนโดยตรงที่ให้ข้อคิดอย่างชัดเจนเกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติตนอย่างถูกต้องตามธรรมเนียมและกฎระเบียบ มีความสมบูรณ์ในตัวเองโดยไม่ต้องตีความเพิ่มเติม
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สุภาษิตนี้มีที่มาจากวิถีชีวิตในอดีตที่บ้านเรือนจะมีทั้งประตูใหญ่ซึ่งใช้เป็นทางเข้าออกหลัก และตรอกซอยที่เป็นทางเล็กๆ เชื่อมต่อระหว่างบ้าน สอนให้คนเข้าออกตามทางที่ถูกที่ควร ไม่ลักลอบหรือย่องเข้าทางที่ผิดระเบียบ สะท้อนถึงการดำเนินชีวิตอย่างมีหลักการ ปฏิบัติตามครรลองและจารีตประเพณีที่ถูกต้อง
ตัวอย่างการใช้สำนวน "เข้าทางตรอกออกทางประตู" ในประโยค
- คุณพ่อสอนลูกชายว่าการเข้าทางตรอกออกทางประตูเป็นสิ่งที่คนดีควรยึดถือ ทำอะไรต้องทำให้ถูกกาลเทศะ
- โบราณว่าเข้าทางตรอกออกทางประตู จะแต่งงานกับใครก็ควรขอต่อพ่อแม่ให้ถูกต้อง ไม่ใช่แอบหนีตามกันไป
- เขาเป็นคนที่เข้าทางตรอกออกทางประตูเสมอ จึงได้รับความไว้วางใจจากผู้ใหญ่ เพราะทำอะไรก็เปิดเผยตรงไปตรงมา
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี