การกำจัดศัตรูนั้น ต้องกำจัดให้หมดสิ้นไปจริง ๆ ไม่ให้เหลือผู้สืบทอดหรือผู้ที่จะกลับมาเป็นศัตรูได้อีก ใช้กับการฆ่าและกับการหน้าที่การงาน
ประเภทสำนวน
"โค่นกล้วยอย่าไว้หน่อ ฆ่าพ่ออย่าไว้ลูก" จัดว่าเป็น สุภาษิต เพราะว่า เป็นคำสอนโดยตรงที่ให้ข้อคิดอย่างชัดเจน เกี่ยวกับการทำสิ่งใดให้ทำอย่างเด็ดขาด ไม่ต้องตีความเพิ่มเติม มีความสมบูรณ์ในตัวเอง
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สุภาษิตนี้สอนเรื่องการกำจัดสิ่งไม่ดีให้หมดสิ้น หากต้องการกำจัดปัญหา ควรทำอย่างถอนรากถอนโคน เพราะหากเหลือ 'หน่อ' จากต้นกล้วยที่โค่น หรือเหลือ 'ลูก' จากศัตรูที่กำจัด สิ่งเหล่านั้นจะเติบโตและกลับมาสร้างปัญหาได้อีก เปรียบเสมือนการแก้ปัญหาที่ต้องแก้ให้ถึงรากเหง้า ไม่เช่นนั้นจะกลับมาเป็นปัญหาซ้ำอีก
ตัวอย่างการใช้สำนวน "โค่นกล้วยอย่าไว้หน่อ ฆ่าพ่ออย่าไว้ลูก" ในประโยค
- ผู้บริหารที่ดีต้องกำจัดปัญหาคอร์รัปชันอย่างเด็ดขาด โค่นกล้วยอย่าไว้หน่อ ฆ่าพ่ออย่าไว้ลูก จึงจะแก้ปัญหาได้จริง
- เมื่อตัดสินใจยกเลิกโครงการแล้ว ต้องยกเลิกทั้งหมด โค่นกล้วยอย่าไว้หน่อ ฆ่าพ่ออย่าไว้ลูก ไม่เช่นนั้นจะกลับมาเป็นปัญหาภายหลัง
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี