ทำทุกข์ให้แก่ผู้ใด เคราะห์กรรมที่ทำกับเขา อาจตกตามมาถึงตัวเองบ้าง
ประเภทสำนวน
"ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว" จัดว่าเป็น สุภาษิต เพราะว่า เป็นคำสอนโดยตรงเกี่ยวกับการทำความดี ไม่ทำร้ายผู้อื่น สอนให้มีความเมตตากรุณา แสดงเหตุและผลอย่างชัดเจน ไม่ต้องตีความเพิ่มเติม มีลักษณะเป็นประโยคที่สมบูรณ์ ให้ข้อคิดคำสอนโดยตรง
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สุภาษิตนี้สอนให้เห็นผลของการกระทำ โดยเน้นว่าการก่อทุกข์หรือสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น ในที่สุดแล้วผลของการกระทำนั้นจะย้อนกลับมาหาตัวผู้กระทำเอง สอดคล้องกับหลักกรรมในพระพุทธศาสนาที่ว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว" ในประโยค
- การที่เขาโกงเงินคนอื่น จนสุดท้ายถูกจับติดคุก ก็เป็นเพราะให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว
- ครูพยายามสอนนักเรียนว่า หากล้อเลียนเพื่อนจนเขาเสียใจ วันหนึ่งเราอาจถูกล้อเลียนบ้าง เพราะให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว
- เธอกลั่นแกล้งเพื่อนร่วมงานจนเขาลาออก แต่สุดท้ายก็ถูกหัวหน้าไล่ออกเมื่อรู้เรื่อง จริงดังคำว่าให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี